ยอมทบทวน'ฮิโนกิแลนด์'ไม่เคลื่อนไหว-ปชช.โหวตดีที่สุด
ข่าวประจำวัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ค. นายเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการที่เดินทางไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวออกมาว่า ทางกระทรวงวัฒนธรรมยินยอมที่จะทบทวนแหล่งวัฒนธรรมที่ประกาศออกมาทั้งหมด 10 แห่งใหม่ทั้งหมด ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก ซึ่งตอนแรกก็คิดว่า ให้กำหนดเวลาของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พิจารณาขอเรียกร้องในการยกเลิกประกาศเป็นเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ยื่นหนังสือ ซึ่งจะครบกำหนดในอีก 2 วันข้างหน้า แต่ในเมื่อทางกระทรวงวัฒนธรรม เห็นว่าจะพิจารณาใหม่แล้ว ทางตนที่เป็นแกนนำในการยื่นหนังสือคัดค้านประกาศของกระทรวงวัฒนธรรม ก็คงจะยังไม่เคลื่อนไหวอะไร เพราะจะรอดูว่าทางกระทรวงวัฒนธรรมจะดำเนินการอย่างไรต่อ
นายเฉลิม กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับรายชื่อที่ทางกระทรวงวัฒนธรรมบอกว่ามีอยู่แล้ว และจะส่งให้กับทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในแต่ละแห่งพิจารณา ก่อนจะนำรายชื่อที่ถูกคัดเลือก มาเผยแพร่บนเว็บไซต์เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมกันโหวต และจะทราบผลการดำเนินงานภายใน 1 เดือน ซึ่งเรื่องนี้ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ผ่านมาประชาชนและจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวเลย แม้แต่ทางเจ้าของฮิโนกิแลนด์ก็ยังไม่ทราบ และยังไม่เห็นด้วยกับประกาศดังกล่าว เพราะเขาทราบดีว่าแหล่งท่องเที่ยวเขาเป็นแบบญี่ปุ่น แต่หากจะมีการโหวตขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งในอดีตเพลงชาติไทย ก็เคยถูกขอร้องให้มีถ้อยคำเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เข้าไปร่วมด้วย ก็มีการแก้ไขทำให้เกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกันกับประกาศของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ก็ต้องมีการยกเลิกและเปลี่ยนแปลงการประกาศได้ ดังนั้น ทางกลุ่มผู้ที่เดินทางไปยื่นหนังสือยังคงยืนยันว่าจะรอฟังคำตอบจากทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมว่าจะเดินหน้าคัดเลือกสถานที่ไหน เพื่อให้เหมาะสมสำหรับคนเชียงใหม่ ซึ่งแท้จริงแล้วก็ไม่อยากมีการเคลื่อนไหวเพราะจะทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศและของจังหวัดเชียงใหม่ โดยในห้วงระยะเวลา 1 เดือนนี้ ทางแกนนำต่างๆ ที่จะเคลื่อนไหวจะหยุดก่อน เพื่อให้เกิดการพิจารณาที่เหมาะสม
ด้านนางคำสีดา แป้นไทย กลุ่ม/เครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จะมีการพิจารณาเรื่องการประกาศ 10 แหล่งวัฒนธรรมต้องไป ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่สถานที่ที่จะพิจารณาใหม่ก็อยากให้ดูหลักเกณฑ์ด้วยว่าจะใช้หลักเกณฑ์อะไรให้เกิดความเหมาะสม และต้องสอดคล้องกับภารกิจหลักของหน่วยงานด้วย เพราะหน่วยงานนี้ชื่อว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ก็ควรนำวัฒนธรรมของคนไทยมาพิจารณา และต้องระบุให้ชัดเจนว่า เป็นวัฒนธรรมที่ต้องมีอายุยาวนานแค่ไหน เป็นของเก่าหรือของใหม่ ในสถานที่ที่จะเกิดขึ้น อย่างเช่น จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเวียงกุมกาม ที่เป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานสำหรับคนเชียงใหม่ หรืออุทยานหลวงราชพฤกษ์ ที่มีหอคำหลวง รวมถึงวัฒนธรรมหลากหลายเชื้อชาติอยู่ภายในสถานที่แห่งเดียว แม้จะมีประวัติศาสน์ของวัฒนธรรม เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็ยังถือเป็นของใหม่ แต่ทุกคนก็เห็นด้วยเพราะมีหลากหลายวัฒนธรรมรวมในจุดเดียว ซึ่งสถานที่ที่จะประกาศ ก็เพื่อให้ประชาชนได้เกิดความตระหนักรู้ของการอนุรักษ์ การส่งเสริมวัฒนธรรม เมื่อมีการส่งเสริมและอนุรักษ์ เกิดการฟื้นฟู ก็จะนำมาสู่เรื่องของการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชนตามมา ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง แต่ภารกิจหลักคือ ต้องทำให้สถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ที่หลายคนรู้จักมากขึ้น นี่คือภารกิจหลักของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เพื่อนำไปสู่เส้นทางของการศึกษาวัฒนธรรมของสถานที่แห่งนั้นว่าเป็นมาอย่างไร
ท้ายที่สุดแล้วหากสถานที่ที่ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม คัดเลือกมาให้จังหวัดเชียงใหม่ แต่ทางจังหวัดเชียงใหม่เห็นว่าไม่เหมาะสม ก็ควรเปิดโอกาสให้กับคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้ช่วยกันคัดเลือกและโหวตสถานที่แห่งนั้นแทนการคัดเลือกของกรมส่งเสริมฯ เพราะจะตรงกับใจของคนเชียงใหม่ว่าต้องการให้ประกาศสถานที่แห่งไหนมากที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง..
- ไม่ได้ต้าน'ฮิโนกิแลนด์' แต่จี้ยกเลิก'10ที่เที่ยว'วธ.ประกาศ
-
-