ข่าวเปิดปฎิบัติการรื้อถอน"บ้านลอยน้ำ" วัตถุพยานในคดี - kachon.com

เปิดปฎิบัติการรื้อถอน"บ้านลอยน้ำ" วัตถุพยานในคดี
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่บริเวณหลักเทียบเรือ ทัพเรือภาคที่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 (ศรชล. ภาค 3) ภายใต้การสั่งการของ พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 นำโดยพลเรือตรี วิธนรัชต์ คชเสนี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ทำหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ และเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติการรื้อถอนและเคลื่อนย้ายวัตถุลอยน้ำหรือบ้านลอยน้ำกลางทะเลภูเก็ต นำหน่วยงานราชการใน ศรชล.ภาค 3 และจังหวัดภูเก็ต มีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมด้วย ตลอดจนสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ลงเรือหลวงศรีราชา ซึ่งเป็นเรือฐานในการกำกับควบคุมการปฏิบัติการรื้อถอนเคลื่อนย้ายวัตถุลอยน้ำหรือบ้านลอยน้ำ เพื่อเดินทางไปกลางทะเลห่างจากเกาะภูเก็ตไปประมาณ 22 กิโลเมตร เพื่อติดตามการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำซึ่งเป็นของกลางคดี กระทำการใดๆ เพื่อให้ประเทศชาติหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 กลับเข้าฝั่ง หลังจากทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล. ภาค 3 ได้เข้าไปสำรวจ 2 ครั้ง และพบว่ามีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงหากปล่อยไว้อาจจะเกิดปัญหาตามมาจึงได้ใช้อำนาจกฎหมาย ศรชล. ในการดำเนินการ


สำหรับการรื้อถอนบ้านลอยน้ำดังกล่าวนั้น มีการจัดเรือทั้งหมด 3 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงศรีราชา  เป็นเรือฐานในการกำกับควบคุมการปฏิบัติการ โดยมี พลเรือตรี วิธนรัชต์ คชเสนี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ทำหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ และเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติการ ส่วนเรือลำเลียง แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ตัวบ้านหรือวัตถุลอยน้ำ 8 เหลี่ยม จะใช้เรือหลวงมันในบรรทุกกลับขึ้นฝั่ง เนื่องจากวัตถุดังกล่าวเป็นไฟเบอร์ หากใช้วิธีการลากอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ กับตัวฐานหรือเดือยจะใช้เรือหลวงริ้น ซึ่งมีขีดความสามารถในการลากจูงทำการลากกลับเข้าฝั่ง ทั้งนี้ในการดำเนินการทุกขั้นตอนจะมีเจ้าหน้าที่เทคนิคของกองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา ร่วมกับผู้ที่มีความรู้ในการประกอบบ้านลอยน้ำคอยให้คำแนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด ขณะเดียวกันได้มีการเตรียมถังลอยและถังพยุงไว้กรณีเกิดการขัดข้องหรือต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ ซึ่งภายหลังการเคลื่อนย้ายกลับมายังฝั่งแล้วเบื้องต้นจะนำมาเก็บรักษาไว้ที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต โดยมอบหมายให้ทางเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวิชิต ในการดูแลรักษาร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเป็นวัตถุพยานสำคัญในคดี นอกจากนี้ก่อนการรื้อถอนและเคลื่อนย้ายจะมีการทำบันทึกรายการสิ่งของต่างๆ ที่ตรวจพบภายในบ้านลอยน้ำ เพื่อให้ผู้ที่จะมาแสดงตัวเป็นเจ้าของมาตรวจสอบ


ด้านนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อวัตถุพยานอยู่ในความดูแลของสถานีตำรวจภูธรวิชิต พนักงานสอบสวนจะเร่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์ จะสามารถส่งเอกสารหลักฐานให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 
ทัพเรือจ่อลุยแยกบ้านลอยน้ำ ลากกลับเข้าฝั่ง22เม.ย.นี้                  

เชื่อผัวเมียบ้านลอยน้ำยังอยู่ในพื้นที่ จ่อดำเนินคดีคนช่วย              

"ทร."จ่อแจ้งหลายข้อหา "ผัว-เมีย"สร้างบ้านลอยน้ำ