ทัพเรือจ่อลุยแยกบ้านลอยน้ำ ลากกลับเข้าฝั่ง22เม.ย.นี้
ข่าวประจำวัน
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะทำงานตรวจสอบและติดตาม การเคลื่อนย้ายวัตถุลอยน้ำ ครั้งที่ 4/2562 โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานเกี่ยวข้อง ทั้งทหารและฝ่ายปกครองร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ โดยที่ประชุมหารือพบว่าบ้านลอยน้ำ ขาดความมั่นคงแข็งแรง อาจเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ ในวันที่ 22 เม.ย. ทัพเรือภาคที่ 3 จะลงพื้นที่เคลื่อนย้ายกลับเข้ามายังฝั่งภูเก็ต พร้อมกันนี้ยังเชิญสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ เพื่อความโปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
ด้าน น.อ.ภุชงค์ รอดนิกร เสนาธิการ กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวชี้แจงการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำว่า มีการจัดเรือ 3 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงศรีราชา เป็นเรือฐานในการกำกับควบคุมการปฏิบัติการ โดยมี พล.ร.ต.วิธนรัชต์ คชเสนี รอง ผบ.ทัพเรือภาคที่ 3 ทำหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ ส่วนเรือลำเลียง แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นตัวบ้านหรือวัตถุลอยน้ำ 8 เหลี่ยม ใช้ เรือหลวงมันใน ในการบรรทุกกลับขึ้นฝั่งเนื่องจากเป็นไฟเบอร์ หากใช้วิธีลากอาจทำให้เสียหายได้ ส่วนตัวที่เป็นฐานหรือเดือย ใช้เรือหลวงริ้น ซึ่งมีขีดความสามารถในการลาก ทำการลากกลับเข้าฝั่ง
น.อ.ภุชงค์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการทุกขั้นตอนมีเจ้าหน้าที่เทคนิคของกองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา ร่วมกับผู้ที่มีความรู้ในการประกอบบ้านลอยน้ำคอยให้คำแนะนำ จึงขอให้มั่นใจได้ว่าไม่เกิดการสูญเสียต่อวัตถุพยานในคดีแน่นอน โดยการเคลื่อนย้ายใช้เวลาครึ่งวัน ทั้งการรื้อถอน และเคลื่อนย้ายกลับเข้าฝั่งได้ นำมาเก็บรักษาไว้บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก จ.ภูเก็ต จากนั้น ตำรวจ สภ.วิชิต นอกจากนี้ได้มีการเตรียมการในส่วนของถังลอยและถังพยุง หากเกิดขั้นข้องก็จะได้ปรับเปลี่ยนวิธีการได้ ทั้งนี้จะนำมาเก็บไว้ที่บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ก่อนให้ตำรวจ สภ.วิชิต ตรวจสอบ พร้อมทำบัญชีรายการทรัพย์สินอย่างละเอียด ไว้ให้เจ้าของตรวจสอบต่อไป
น.อ.ภุชงค์ กล่าวว่า ยืนยันว่าดำเนินการด้วยความโปร่งใส และรักษาวัตถุลอยน้ำให้ดีเรียบร้อยที่สุด นโยบายของ พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 โดยทุกขั้นตอนการเคลื่อนย้ามีการบันทึกภาพ พร้อมเชิญสื่อมวลชนร่วมบันทึกภาพเป็นประจักษ์พยาน โดยคำนึงถึงสิทธิและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ ไม่ได้กลั่นแกล้งหรือดำเนินการโดยพละการ ทั้งนี้หน่วยงานใน ศรชล.เขต 3 ที่จะร่วมปฏิบัติงานในครั้งนี้ ได้ลงลายมือชื่อร่วมกันเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของการปฏิบัติงานร่วมกัน ด้วยความบริสุทธิ์ และคงไว้ซึ่งอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
ส่วนของการดำเนินคดีอยู่ระหว่างการติดตาม ตัวสองสามีภรรยา ผู้ถูกกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 มาดำเนินคดีนั้น พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต กล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวทั้งสอง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.