ข่าว'คาเฟ่แมว'อลเวงเตรียมแจ้งจับอาสาสมัครที่เข้าช่วยเหลือ - kachon.com

'คาเฟ่แมว'อลเวงเตรียมแจ้งจับอาสาสมัครที่เข้าช่วยเหลือ
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
กรณีมีผู้ร้องเรียนแจ้งว่า พบแมวกว่า 32 ชีวิต ถูกขังไว้ในคาเฟ่แมวแห่งหนึ่งเป็นอาคารชุดย่านวัชรพล ต่อมาทางกลุ่มอาสาสมัครได้เข้าไปตรวจค้นและช่วยเหลือแมว​ หลังทราบว่าคาเฟ่แห่งนี้ปิดกิจการลงตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา​ ต่อมาทางเพจ”วอชด็อกไทยแลนด์” ได้ออกมาเปิดเผยว่าแมวทั้งหมดไม่ได้ถูกทิ้ง​ ความคืบหน้า

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ สน.สายไหม นายทัฬอิญ จิรเปรมธนิก อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย(สร.) เขต 14 เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐนันท์ ม่วงงาม รองผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม พร้อมเจรจากับกลุ่มสัตวแพทย์เจ้าของแมวเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้ง โดยนายทัฬอิญ กล่าวว่า ตนต้องการเข้าเจรจาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ต่อกรณีเข้าช่วยเหลือแมวจากคาเฟ่ดังกล่าว ซึ่งเมื่อเรื่องราวได้แพร่หลายออกไป อาจทำให้เกิดความไม่พอใจกับกลุ่มสัตวแพทย์ จึงอยากเจรจาและขอโทษ แต่ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆเกี่ยวข้อง และก็ไม่ได้รู้จักกับสัตวแพทย์,เจ้าของหรือพนักงานคนใดในคาเฟ่ด้วย​ ส่วนจะแจ้งความใครนั้น​ ตนไม่คิดจะทำร้ายและซ้ำเติม แต่หากว่าจะถูกแจ้งความกลับ ตรงนี้ไม่รู้สึกกังวล เพราะมีหลักฐานการเชิญ มีเอกสารเซ็นต์รับรองให้เข้าช่วยเหลือแมวในฐานะจิตอาสา และได้ติดต่อพนักงานที่ดูแลร้านก่อนทุกครั้ง อีกทั้งไม่ได้เข้าไปเพียงคนเดียว แต่มีทีมงานและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมด้วย อาจมีข้อผิดพลาดบางเรื่อง ทำให้ไม่ได้แจ้งกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก่อน เพราะทุกคนต่างเร่งรีบที่จะช่วยเหลือแมวออกมาให้เร็วที่สุด


นายทัฬอิน​ กล่าวต่อว่าแมวที่ได้รับการช่วยเหลือยังไม่ได้แจกจ่ายให้ใคร หากมีสัตว์แพทย์หรือผู้ใดที่ต้องการนำแมวไปดูแล ตนต้องได้รับการยืนยันก่อนว่าแมวจะไม่มีสภาพความเป็นอยู่แบบเดิม ซึ่งตอนนี้แมวแข็งแรงขึ้นมาก อยากให้มูลนิธิกลางเข้ารับเลี้ยงดูแลแมวที่ช่วยเหลืออกมาได้ทั้งหมด เพราะจะโปร่งใสที่สุด สามารถตรวจสอบบัญชีการเงิน รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของแมวได้​ ส่วนกรณีที่มีแมวบางตัวพิการเพราะเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์นั้น เพื่อนสัตวแพทย์ของตนได้บอกว่า เมื่อสังเกตจากภายนอกแล้วเชื่อได้ว่าไม่ใช่พันธุ์แท้แน่นอน แต่หากต้องการตรวจสอบเชิงลึกจริง ต้องนำเลือดไปตรวจดีเอ็นเอซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก หากหน่วยงานภาครัฐเข้าให้ความช่วยเหลือโดยตรงจะเป็นประโยชน์มาก  จากนั้นจึงมีการเจรจากันระหว่างคู่กรณีทั้ง​ 2​ ฝ่าย​ คือฝ่ายตัวแทนเพื่อนสัตวแพทย์หญิงชมพู่ ซึ่งเป็นเจ้าของคาเฟ่แมวดังกล่าว กับนายทัฬอิญ ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือแมว​ โดยเจรจาต่อหน้าพนักงานสอบสวนนานร่วม 3 ชั่วโมง จึงเป็นอันยุติ​


ด้านสัตวแพทย์หญิงภัทรนันท์ สัจจารมย์ ผู้ช่วยฝ่ายกฎหมาย”วอชด็อกไทยแลนด์” กล่าวภายหลังว่า ในวันนี้ทางกลุ่มสัตวแพทย์ที่เป็นเพื่อนของสัตวแพทย์หญิงชมพู่ เจ้าของคาเฟ่ ซึ่งถูกดำเนินคดีตามความผิดอาญาอยู่ในขณะนี้ ได้นำหนังสือมอบอำนาจ แต่งตั้งเพื่อนของสัตวแพทย์ 6-7 คนเป็นผู้ดูแลแมวทั้งหมดที่อยู่ในคาเฟ่ แบ่งเป็นแมว 32 ตัว ตายไปแล้ว 1 ตัว และได้มอบให้ผู้อื่นไปแล้ว 1 ตัว จึงเหลือเพียง 30 ตัว โดยนายทัฬอิญ ยอมรับข้อตกลง และจะมอบแมวทั้งหมดให้ภายในวันนี้ แต่สำหรับคดีความ เป็นเรื่องระหว่างบุคคล ทาง”วอชด็อกไทยแลนด์”ไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ขณะที่มารดาของสัตวแพทย์หญิงเจ้าของคาเฟ่ พร้อมพนักงานที่ดูแลคาเฟ่ 2 คน ซึ่งเดินทางเข้าพบตำรวจเพื่อเตรียมเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่บุกรุกเข้าไปนำแมวออกมาจากคาเฟ่โดยไม่ได้รับอนุญาติ และได้นำหลักฐานคลิปวิดีโอในวันเกิดเหตุที่มีการบุกรุก เข้าไปทำร้ายร่างกายมามอบให้กับตำรวจด้วย​ ซึ่งเบื้องต้นเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา คือ บุกรุกเคหสถานโดยไม่ได้รับอนุญาติ​ ลักทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย​ ซึ่งภายหลังจากพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เสร็จ ได้เดินทางกลับทันที​ โดยไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภาพคาเฟ่แมวนรก กักขังเหมียวอยู่อย่างลำบาก