ข่าวรพ.แจงเด็กถูกแทงน้ำเกลือแขนบวม"เนื้อตาย"แล้ว - kachon.com

จากกรณีที่นายปัญญา  มหาสุข อายุ 31 ปี พาบุตรชายวัย1ขวบ6เดือน เข้ารักษาอาการผื่นคันขึ้นที่ตาที่ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ก่อนที่ทางแพทย์และพยาบาล ให้น้ำเกลือที่ข้อมือฝั่งขวาโดยนำผ้าก๊อตมาพันไว้ที่แขน แต่ต่อมาพบว่าน้ำเกลือไม่ได้เข้าเส้นเลือด โดยน้ำเกลือเข้าไปอยู่ในผิวหนังบวมตั้งแต่หัวไหล่ยันปลายนิ้วมือ บริเวณผิวหนังมีสีดำ แต่ก็ไม่ได้รับการชี้แจงจากรพ. กลัวไม่ได้รับความยุติธรรมจึงต้องมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเพราะยังไม่มีท่าทีของรพ.ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร ความคืบหน้า

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกลุ่มไลน์สื่อมวลชนรพ.ธรรมศาสตร์ร์เฉลิมพระเกียรติ ที่มีผู้สื่อข่าวในจ.ปทุมธานี รวมอยู่ด้วย  เวลา11.21น.ผู้สื่อข่าวสอบถามเข้าไปว่าจะมีการชี้แจงอะไรหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่รพ.เขียนข้อความตอบกลับมาว่า กำลังทำแถลงการณ์อยู่ ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับไปว่า ไม่มีแถลงข่าวแต่เป็นแถลงการณ์ที่เป็นเอกสารนะครับ ก่อนจะมีคำตอบกลับมาว่าใช่ครับ  ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางกลับ  เวลาผ่านไประยะหนึ่งเจ้าหน้าที่รพ.ตอบไลน์กลับมาว่า เปลี่ยนแผนผอ.โรงพยาบาลเรียนเชิญพี่ๆน้องสื่อมวลชนร่วมฟังการแถลงข่าว วันนี้ เวลา 12.00 น ณ ห้องประชุม 1-2 ชั้น 7 อาคารกิตติวัฒนา ระยะที่ 2  ทำให้สื่อมวลชนบางสำนักไม่สามารเดินทางมาทัน เพราะการทำงานที่ไม่มีการประสานงานกันในรพ.ที่ขาดความชัดเจนในการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบกับที่จอดรถโดยรอบโรงพยาบาลที่ค่อนข้างหาได้ยาก.ซึ่งจนถึงเวลา14.28น.ก็ยังไม่พบเอกสารที่ว่าจะมีการส่งในกลุ่มไลน์ต่อมาที่ห้องประชุม2ชั้น7ที่อาคารกิตติวัฒนาระยะที่2  รศ.นพ.พฤหัส  ต่ออุดม ผอ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้มีการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนโดยมีนายปัญญา  มหาสุข อายุ 31 ปี บิดาของหนูน้อย ที่เข้ารับการรักษาอาการป่วยรวมอยู่ด้วย


รศ.นพ.พฤหัส   เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจและเห็นใจทางครอบครัวของน้องที่เกิดเหตุการณ์ที่มีภาวะแทรงซ้อนของการรักษา มีผิวหนังตายที่บริเวณมือ ซึ่งเหตุการณ์นี้ผู้ป่วยได้มาตรวจรักษาเมื่อวันที่ 7เม.ย.เวลาประมาณ20.00น.โดยมาด้วยอาการผื่นเบื้องต้นคิดว่าเป็นเรื่องของการแพ้ยาเพราะผู้ป่วยมีการทานยาปฏิชีวนะมาส่วนหนึ่งจึงรับเข้าดูแลรักษา   เวลาประมาณ00.20น.วันที่8เม.ย. มีการเข้ารับการให้น้ำเกลือเพื่อสังเกตุอาการ  หลังจากที่แทงน้ำเกลือแล้วถึงเวลา08.00น.โดยผู้ป่วยมีอาการกระสับกระส่ายบ้าง โยเยบ้างเป็นเหตุการณ์ในเด็กเล็กอาจบ่งบอกถึงความไม่สบาย เหตุการณ์ที่ทางรพ.ไปพบก็เรื่องสายน้ำเกลือที่เคลื่อนหลุดเกิดการบวมที่ผิวหนัง จึงทำการถอดน้ำเกลือออก สาเหตุหลักคือน้ำเกลือหลุดออกนอกเส้น ทำให้แผลกระจายไปทั่วหลังจากนั้นแล้วเป็นแผลแทรกซ้อนจากน้ำเกลือไหลออกมาตั้งแต่วันที่8เม.ย.ถึงวันที่ 10เม.ย.โดยการที่น้ำเกลือเข้าไปแทรกนั้นคือการขาดเลือดของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำก่อนจะเป็นถุงน้ำเกิดขึ้นเหมือนผิวหนังที่ตาย ซึ่งทางรพ.ไม่ได้นิ่งนอนใจโดยมีทีมเข้าไปดูแล จากการประสานงานมาตั้งแต่วันที่8 เม.ย.ทางบิดาผู้ป่วยยังไม่ได้รับคำตอบที่หน้าพอใจ  ตั้งแต่วันเกิดเหตุผู้ป่วยได้รับการดูแลอยู่แล้วทางรพ.มีความยินดีที่จะดูแลรักษาต่อ  ค่าใช้จ่ายจากประวัติแทรกซ้อนให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายของทางรพ.ไป


รศ.นพ.พฤหัส กล่าวต่อว่า จากการประสานจากผู้เชี่ยวชาญแล้วพบว่าอาการบวมของผู้ป่วยปัจจุบันมีการยุบไปแล้ว เหลือเฉพาะจุดที่มีเนื้อตาย ที่ผ่านมา3วันทำให้รู้ขอบเขตของโรคแล้ว ผิวหนังที่ตายส่วนใหญ่ถ้าเราทำแผลประกอบกับผู้ป่วยยังเด็กนั้นการสมานของแผลค่อนข้างที่จะรวดเร็วมีประสิทธิภาพสูงขอเวลาสัก2สัปดาห์จะสามารถบอกได้ว่าจะดำนินการรักษาอะไรต่อ  โดยจากการพูดคุยกับบิดาผู้ป่วยนั้นทราบว่า 1.อยากให้ผู้ป่วยดูแลในห้องเดี่ยวพิเศษที่ผู้ป่วยรักษาอยู่แล้วก่อนหน้าทางรพ.ก็ยินดี 2.ค่าใช้จ่ายที่เป็นส่วนเกินซึ่งเป็นภาระหนักของครอบครัวทางรพ.ยินดีดูแลประสานต่อจนจบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ยังไม่ได้สรุปชัดเจนว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใดเพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นห่างกัน8ชม.โดยได้มีการพูดคุยกันในทีมความเสี่ยงและทีมพยาบาลว่าการที่เราจะไปตรวจพบหรือพบภาวะแทรกซ้อนเร็วเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยแน่นอน เช่นเวลาตั้งแต่แทงน้ำเกลือไปจนถึงเวลา08.00น.อาจจะเกิดจากการแทงเข็มน้ำเกลือแล้วเลื่อนหลุดหรือว่าผู้ป่วยขยับแล้วเลื่อนหลุดก็ตามซึ่งเวลาตรงนี้จะมีผลมาก หากทราบเร็วภาวะแทรกซ้อนก็จะน้อยลง สิ่งนี้ทางรพ.จะนำไปประสานการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยต่อไป ด้านนายปัญญา กล่าวเพียงสั้นๆว่า พอใจกับการที่รพ.ออกมารับผิดชอบ แต่ทั้งนี้ทางรพ.ควรจะมีความระเอียดรอบคอบในการดูแลคนไข้มากกว่านี้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อเซ็งหมอแทงน้ำเกลือไม่เข้า"ลูกแขนบวม"รพ.ยังมึน