ผู้การสุพรรณฯยัน"เดชา" ไม่ได้แจ้งครอบครองกัญชา
ข่าวประจำวัน
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 เม.ย. พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า สำหรับการตรวจค้นมูลนิธิข้าวขวัญในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก สำนักงาน ปปส.ภาค 6 ได้รับแจ้งว่ามีคนเอาน้ำมันกัญชาไปให้พระที่ จ.พิจิตร แจกชาวบ้าน เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ต่อมา ปปส.ฯได้ร่วมกับ ตำรวจ สภ.สระแก้ว จ.สุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบ จึงพบของกลางต้นกัญชากว่า 200 ต้น รวมทั้ง น้ำต้มกัญชา กัญชาผงบด เมล็ดกัญชา กัญชาแห้งอัดเม็ด น้ำมันกัญชา เครื่องบดกัญชาอีกจำนวนมาก โดยนายพรชัย ชูเลิศ อ้างว่าเป็นของนายเดชา เอาไว้บดเป็นยารักษาคนไข้ นอกจากนี้ยังได้อบรมคนที่สนใจทำน้ำมันกัญชาไปแล้วทั้งหมด 20 รุ่นๆละ 40 คน โดยเสียค่าอบรมคนละ 2,000 บาท
"แต่มีปัญหาว่าที่ผ่อนผันให้ 90 วันนั้น จะครบ 90 วันในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ดังนั้นถ้าจะทำการศึกษาวิจัยหรือมีกัญชาไว้เพื่อรักษาโรค จะต้องแจ้ง สาธารณสุขจังหวัดฯ(สสจ.)หรือ อย. กรณีเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าไปจับนั้นถือว่ารอบคอบ ได้ตรวจสอบกับ สาธารณสุขจังหวัดแล้วพบว่าไม่มีการแจ้งแต่อย่างใด เมื่อไม่มีการแจ้ง ดังนั้นการเจอกัญชา จึงเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งถ้าไปแจ้งขออนุญาตก็จบ แต่นี้่ไม่มีการแจ้ง ดังนั้นก็ต้องมีความผิดตามกฎหมายแน่นอน เพราะกฎหมาย พรบ.ยาเสพติดยังไม่ได้แก้ไข เพียงแต่แค่ผ่อนผันเท่านั้น ในช่วงที่ศึกษาวิจัยเอาไปรักษาโรค แต่ผู้ครอบครองต้องแจ้ง สาธาราณสุข จังหวัดหรือ อย.ให้ถูกต้อง ทั้งนี้พนักงานสอบสวนยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับนายเดชาแต่อย่างใด อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ถ้านายเดชามาให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวนก็ยินดี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และเคสนี้เป็นความผิดซึ่งหน้าเจอแล้วต้องจับ เพราะไม่ได้มีแค่ครอบครองเฉยๆ แต่ถึงขั้นขนาดผลิตน้ำมันกัญชาออกแจกแล้ว ถึงจะเป็นความหวังดีก็ตาม แต่กฎหมายก็ต้องดำเนินการ"พล.ต.ต.คมศักดิ์
ด้านนพ.สาโรจน์ มะรุมดี สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าทาง อย.ได้โทรศัพท์มาสอบถามเกี่ยวกับกรณีของนายเดชา ว่ามีการขออนุญาตหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด จึงถือว่าผิดกฎหมาย เพราะเป็นยาเสพติดประเภท 5
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง