น.1 เรียกอาจารย์ ม.ดัง ให้ข้อมูล จัดอบรมอาสาตำรวจ ย้ำวันนี้สอบให้เสร็จ ผิดจริงฟันวินัย-อาญา
ข่าวประจำวัน
3 ม.ค. 68 – ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เปิดเผยกรณีที่มีข่าวว่า มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เปิดคอร์สให้คนจีนมา อบรมอาสาตำรวจคนจีน พร้อมอ้างถึงความร่วมมือกับสำนักงานสืบสวนกลาง กองบังคับการนครบาลภาค 3 โดยมีค่าใช้จ่ายต่อหัวคนละ 38,000 บาท ว่า
ขณะนี้สั่งการให้ กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาภายในวันนี้ โดยโครงการ อบรมอาสาแจ้งข่าว อธิการของมหาวิทยาลัยสยามมีจริง ทั้งนี้หากพบว่า ตำรวจทั้ง 2 นาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้จัดโครงการฯ ไม่ใช่เพียงแค่เป็นวิทยากรก็จะดำเนินการทางอาญาหรือทางวินัย ทั้งนี้ต้องอยู่ที่การตรวจสอบว่า ตำรวจทั้ง 2 นาย มีส่วนรู้เห็นกับเจ้าของโครงการฯ ด้วยหรือไม่ ในการเรียกรับผลประโยชน์
พล.ต.ท.สยาม กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ปิดอยู่ และผู้บริหารอยู่ที่ต่างประเทศ จะเดินทางกลับวันนี้ ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้เชิญอาจารย์เข้าพบที่ บก.น.3 ในเวลา 10.00 น. เพื่อสอบถามรายละเอียดของโครงการฯ ว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ตามที่ได้มีการโพสต์ไปว่า โครงการมีการเรียกเก็บเงิน 38,000 บาท สรุปแล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
พร้อมทั้งขอรายชื่อผู้ที่เข้ารับการอบรมทั้งหมดมาสอบ เพื่อหาข้อสรุปว่า มีการจ่ายเงินจริงหรือไม่ และจ่ายเงินให้ใคร รวมไปถึงการชักชวนเข้ามาอบรม มีการชักชวนอย่างไรบ้าง ทำไมถึงมาเข้าโครงการ มีที่มาที่ไปอย่างไร มีใครชักชวนให้เข้ามาอบรม เมื่ออบรมแล้วได้อะไร ซึ่งจะต้องรอสอบถามรายละเอียดกับผู้ที่เข้ารับการอบรมแล้วอีกครั้ง
พล.ต.ท.สยาม กล่าวต่อว่า เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมด หากพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้นตามพยานหลักฐาน ยืนยันว่า ตำรวจที่เป็นวิทยากรปรากฎตามภาพถ่ายเป็นตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ไม่ใช่ตำรวจที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบดูแลมหาวิทยาลัยสยาม
นอกจากนี้ยังตรวจพบว่า โครงการนี้จะมีการเปิดรุ่นที่ 2 แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดแล้ว ทำให้โครงการรุ่นที่ 2 ถูกเลื่อนออกไป เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องระเบียบที่เข้าข่ายหมิ่นเหม่ข้อกฎหมาย จึงเห็นควรให้ชะลอโครงการนี้ไว้ก่อน
พล.ต.ท.สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการอบรมให้ความรู้ในการแจ้งข่าวอาชญากรรมเป็นเรื่องปกติที่ตำรวจได้มีการอบรมกันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นโครงการที่ตำรวจจัดขึ้นมาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ความรู้กับประชาชนในการแจ้งข่าวป้องกันภัยต่างๆ เพื่อให้มีส่วนร่วมในภาคประชาชน
ส่วนการนำเครื่องหมายตราแผ่นดิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทางราชการไปใช้นั้นถือว่าผิดอยู่แล้ว และการจะนำโลโก้ของหน่วยงานราชการไปใช้จะต้องมีการขออนุญาต
สำหรับ ผู้ที่โพสต์ชักชวนให้มีการเข้าร่วมโครงการ และมีการเรียกเก็บเงิน จะเป็นบุคคลใดจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้สั่งการไปยังผกก.สน.ภาษีเจริญ ซึ่งเป็นตำรวจในพื้นที่ให้ตรวจสอบและรายงานผลให้ทราบ
ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจไซเบอร์ กรณีที่มีการนำข้อมูลเข้าไปโพสต์ และไม่ใช่เรื่องจริงจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ทั้งนี้จะสั่งการให้สายตรวจไซเบอร์ทำการตรวจสอบว่า ต้นโพสต์มาจากแหล่งใด ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ
เมื่อถามว่า การโพสต์ข้อความดังกล่าวจะทำให้ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสียหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า ทางตำรวจขอตรวจสอบให้แน่ชัดว่า โพสต์นั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากมีการดัดแปลงตัดต่อข้อความ ก็จะเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
และจะประสานกับตำรวจนครบาล เพื่อขอข้อมูลจากทางมหาวิทยาลัยสยาม เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไปของโพสต์ต่างๆ ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จอย่างไร หากเป็นข้อความเท็จถึงแม้ผู้โพสต์ จะอยู่ต่างประเทศก็สามารถดำเนินการกล่าวหาดำเนินคดีตามกฏหมายได้ แม้จะเป็นคนต่างชาติ ก็สามารถออกหมายจับดำเนินคดีได้
ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์
.......
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
ปาฏิหาริย์อีกครั้ง เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ช่วยชีวิตคุณยายวัย 73 ปี ให้รอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ (คลิ๊ก)พระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดอรุณ พระผู้สร้างเหรียญพระเจ้าตากชาววัดอรุณ หนึ่งเดียวในตำนานประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี (คลิ๊ก)
สแกน QR Code เพื่อการเที่ยวชมความจริงของวัดอรุณราชวรารามแบบจำลองความจริงทั้งพระบถ
QR Code เพื่อการสำรวจความงามของวัดอรุณทั้งพระอาราม.
QR 碼以探索黎明寺的美麗。整個修道院。