ข่าวบุกช่วย ด.ญ.5 ขวบ กับ 7 ขวบ ถูกพ่อแม่ติดยาทำร้ายประจำ ทิ้งไว้อยู่กับปู่ยากจน - kachon.com

วันที่ 20 ธ.ค. 2567 น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้รับการร้องเรียนว่ามีพ่อแม่แท้ๆ ทำร้ายลูกสาวของตน 2 คน ในพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา จึงประสาน ว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา และนายสมพงษ์ ดวงชอุ่ม ปลัดอำเภอบางน้ำเปรี้ยว และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางเข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังหนึ่ง ม.14 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

จากการตรวจสอบ พบ ด.ญ.เอ อายุ 5 ขวบ และด.ญ.บี อายุ 7 ขวบ อยู่กับนายสมศักดิ์ อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นปู่ สภาพบ้านเต็มไปด้วยขยะ มีขี้ไก่ที่เลี้ยงไว้อยู่บนบ้านและที่นอน สภาพความเป็นอยู่ไม่ถูกสุขลักษณะ

ก่อนหน้านี้ เด็กทั้ง 2 คนมักจะโดนพ่อแม่ทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ ตอนนี้นายสมชาย ซึ่งเป็นพ่อของเด็กได้ติดคุกในคดียาเสพติด และจะพ้นโทษวันที่ 15 ม.ค.นี้ โดยนายสมชายจะชอบทุบตีและทำร้ายร่างกายภรรยา และลูกๆ เป็นประจำ มีพฤติกรรมเสพยาบ้าและลักขโมยของคนในหมู่บ้านเป็นประจำ

ส่วน น.ส.แสงเดือน แม่ของเด็ก ก็ติดยาเสพติด จับลูกโกนผมทั้งสองคน ชอบตบลูกด่าทอลูกใช้คำหยาบคายกับลูก เมื่อลูกปั่นจันรยานล้มขาเข้าไปขัดกับล้อรถจนเป็นแผลลึก แม่ได้ถอดรองเท้าตบหน้าลูก ด่าว่าลูก แล้วใช้มือขยี้แผลเด็กด้วยความโมโห

ตอนนี้แม่ได้ทิ้งเด็กทั้ง 2 ให้อยู่กับปู่ และหนีไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้มากนัก ปู่ของเด็กมีอาชีพเก็บของเก่ามาขาย เพื่อหาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ส่วนมากจะกินข้าวกับกะปิน้ำปลาเป็นประจำ ชาวบ้านพลเมืองดีเป็นห่วงว่า พ่อของเด็กกำลังจะออกมาจากคุก และจะกลับมาทำร้ายร่างกายเด็กอีก

นายสมศักดิ์ อายุ 69 ปี ปู่ของเด็ก ตอนแรกไม่ยอมรับว่าลูกชายเคยทำร้ายหลาน จะโยนความผิดให้กับลูกสะใภ้เพียงคนเดียวที่ใช้ไม้แขวนเสื้อ หรือใช้ความรุนแรงทำร้ายลูกๆ แต่สุดท้ายก็ยอมรับว่า ลูกชายของตนก็ทำร้ายลูกเช่นเดียวกัน ส่วนลูกสะใภ้มีนิสัยขี้ขโมย ได้ขโมยเอาบัตรเอทีเอ็มที่รัฐบาลแจกเงิน 10,000 บาทไป หลังจากนั้นก็ทิ้งลูกๆ ทั้ง 2 คนไว้ และไม่เคยกลับมาอีกเลย

ต่อมา น.ส.แสงเดือน แม่ของเด็ก ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ พร้อมเปิดเผยว่า ตนคบกับนายสมชาย ตั้งแต่ปี 2559 และถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด เวลาเสพยาก็จะมีอาการหลอน ทำร้ายตนและลูกๆ แบบไม่มีสาเหตุ จึงทนไม่ไหวเลิกราไป

น.ส.แสงเดือน กล่าวต่อว่า ตนมีลูกทั้งหมด 5 คน โดยเป็นลูกของตนกับนายสมชาย 2 คน แต่ตนเลี้ยงไม่ไหว เพราะมีฐานะยากจน ไม่มีเวลาดูแล ต้องทำงานตลอด ส่วนเงิน 10,000 บาทที่กดไปนั้น จะซื้อสิ่งของและอาหารมาให้ปู่ของเด็ก แต่ทำงานเลยยังไม่มีเวลาเอามาให้

ว่าที่ร้อยตรี ดร.ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ให้แม่เซ็นยินยอมมอบให้ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นผู้อุปการะเด็ก ก่อนจะหาครอบครัวอุปถัมป์ในการดูแล

จากการสอบถามนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นปู่ของเด็กทั้ง 2 คน จะยอมเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูเด็ก เนื่องจากสงสารเด็กๆ เพราะเด็กทั้ง 2 คนติดปู่มาก และปู่ก็รักหลาน หลังจากนี้จะทำเรื่องเงินสงเคราะห์มาช่วยเหลือ และประสานหน่วยงานในพื้นที่มาช่วยกันปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของบ้านพัก

โดยเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ติดตามผลทุกเดือน ทั้งที่โรงเรียน รวมถึงบ้านของนายสมศักดิ์ที่รับเด็กทั้ง 2 ไปดูแล นอกจากนี้หลังพ่อของเด็กพ้นโทษออกมา ก็จะมาสร้างความเข้าใจว่าสิ่งไหนทำได้ ทำไม่ได้