ข่าวจับแก๊งจีน ลักทรัพย์ในรถ ทำทีคุยมือถือ พอจะล็อกรถ แอบเปิดประตูไว้ ฉกเงินสด-บัตรเครดิต - kachon.com

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.67 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.7 สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญโรจน์ โลจายะ ผกก.สน.ธรรมศาลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ธรรมศาลา, กก.สส.บก.น.7 ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ คือ นายลิน สัญชาติจีน อายุ 41 ปี และ นายเหวย สัญชาติจีน อายุ 39 ปี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีกลุ่มคนร้ายชาวต่างชาติ (สัญชาติจีน) มาก่อเหตุลักทรัพย์ภายในรถยนต์ที่ประชาชนขับมาจอดยังลานจอดรถตลาดสด (เขตรับผิดชอบ สน.ธรรมศาลา) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.40 น. และ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.45 น. ซึ่งมีลักษณะการก่อเหตุรูปแบบเดียวกัน

แบ่งหน้าที่ คนร้ายที่ 1 ทำทีไปยืนคุยโทรศัพท์ข้างรถผู้เสียหาย อาศัยจังหวะผู้เสียหายลงจากรถ และกำลังล็อกประตูรถ แอบเปิดประตูไว้ แล้วให้คนร้ายที่ 2 เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในรถ ซึ่งคนร้ายที่ 1 จะทำทีเดินตามผู้เสียหายและคอยโทรศัพท์เพื่อแจ้งความเคลื่อนไหวให้คนร้ายที่ 2 ตลอดเวลา

ขณะก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์ คนร้ายจะเลือกทรัพย์เป็นเงินสด และกระเป๋าสตางค์ใส่บัตรเดบิต และบัตรเครดิต จากนั้นคนร้ายจะนำบัตรไปใช้ซื้อสินค้าทันที เป็นสกุลเงินต่างประเทศ สกุลเงินเยน (ญี่ปุ่น) และ สกุลเงินด้อง (เวียดนาม) เมื่อคนร้ายก่อเหตุสำเร็จ จะรีบเดินทางออกนอกประเทศ

ชุดสืบสวนจึงติดตามกระทั่งทราบว่าคนร้ายทั้ง 2 คือนายลิน สัญชาติจีน อายุ 41 ปี และนายเหวย สัญชาติจีน ตำรวจจึงจับกุมคนร้ายทั้ง 2 ราย ตามหมายจับของศาลาอาญาตลิ่งชัน ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ ได้ใน พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนจะนำตัวมายัง สน.ธรรมศาลา และตรวจยึด เสื้อยืด กางเกงยีนส์ และหมวก จำนวน 9 รายการ เชื่อว่าเป็นเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ขณะไปก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์ ได้จากกระเป๋าเดินทางของ ผู้ต้องหา นายลิน สัญชาติจีน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบในวันก่อเหตุ ผู้ต้องหานายลินสวมใส่เสื้อยืดสีขาว ซึ่งเป็นตัวที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะถูกจับกุม และผู้ต้องหา นายลินสวมใส่เสื้อยีดสีดำ ซึ่งตรงกับเสื้อยืดที่ตรวจยึดจากกระเป๋าเดินทางของผู้ต้องหา

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า นอกจากนี้ สน.ธรรมศาลา ประสานข้อมูลกับสถานีตำรวจต่างพื้นที่ จนทราบว่าคนร้ายทั้ง 2 ราย ก่อเหตุอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 2 ครั้งในวันเดียวกัน

เหตุการณ์ที่ 1 บริเวณลานจอดรถใกล้มหาวิทยาลัย แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน มีเหตุถูกลักทรัพย์ภายในรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ สีเทา ทรัพย์สินที่สูญหายดังนี้ 1.สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ลายห่วงเล็ก 1 เส้นราคาประมาณ 225,000 บาท

2.บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 ใบ 3.บัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 ใบ 4.ธนบัตร 1,000 บาท จำนวน 2 ใบ (โดยบัตรเครดิตทั้งสองใบมีการพยายามใช้บัตรเครดิตชำระราคาสินค้า แต่สามารถอายัดการทำรายการไว้ได้ โดยรายการใช้บัตรเครดิตนั้นขึ้นว่าประเทศเวียดนาม

ในวันเดียวกันก่อเหตซ้ำอีกที่ลานจอดรถ จุฬาซอย 5 มีเหตุลักทรัพย์ภายในรถยนต์ ยี่ห้อ BMW สีเทาทรัพย์สินที่สูญหายดังนี้ 1.บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 ใบ 2.บัตรเดบิตธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 ใบ 3.บัตรเครดิต วีซ่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 1 ใบ 4.บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 1 ใบ (โดยบัตรเครดิตรายการที่ 1 และ 4 มีการพยายามใช้บัตรชำระราคาสินค้า แต่สามารถอายัดการทำรายการไว้ได้โดยรายการใช้บัตรเครดิตนั้นขึ้นว่าประเทศเวียดนาม)

อย่างไรก็ตาม จะมีการประสานข้อมูลของคนร้ายทั้ง 2 ราย ที่ก่อเหตุกับสถานีตำรวจต่างพื้นที่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้อยากเตือนภัยประชาชนผู้ใช้รถยนต์ให้ตรวจสอบการล็อกรถยนต์ของท่านว่า ท่านนั้นล็อกรถยนต์ดีแล้วหรือไม่

และขณะที่ล็อกรถมีบุคคลแปลกหน้ามายืนข้างๆ แถวรถยนต์หรือไม่ อย่าเพียงแต่ล็อกรถแล้วเดินหันหลังไป เพราะนั้นจะเป็นช่วงจังหวะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ หันกลับมามองรถของท่านสักนิดก่อนเดินจากไปเพื่อความปลอดภัยของรถและทรัพย์สิน