ข่าวตามจับ2ผัวเมียสุดแสบ ปลอมเพจวัดรับบริจาคเงินช่วงกฐิน ชาวบ้านหลงเชื่อโอนทำบุญ เสียหายนับล้าน - kachon.com

วันที่ 10 ธ.ค.2567 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท. ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 เข้าจับกุม นายตะวัน อายุ 31 ปี และน.ส.วรวรรณ อายุ 31 ปี โดยจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตาก

สืบเนื่องจากช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เป็นช่วงเทศกาลทำบุญกฐิน ที่ประชาชนคนไทยนิยมทำบุญใหญ่กันทั่วประเทศ มีกลุ่มคนร้ายหากินกับความศรัทธาของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบเฟซบุ๊กธรรมมะไร่เชิญตะวันและเพจ เรารักการทำบุญ ได้โพสต์ภาพ เชิญชวนทำบุญกฐินสามัคคี ณ วัดดงยางเหนือ อ.พบพระ จ.ตาก

ซึ่งทั้ง 2 เพจ มีข้อความเชิญชวนบริจาคที่เหมือนกัน และมีประชาชนกดถูกใจและสนใจร่วมทำบุญกันเป็นจำนวนมาก แต่มีคอมเมนต์บางส่วนที่แสดงความไม่พอใจว่า โพสต์นี้ “มันหลอกชาวบ้านอย่าไปเชื่อ” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนพบว่ายังมี โพสต์เกี่ยวกับให้ช่วยกันบริจาคเนื่องจากมีพระป่วยรถล้มบาดเจ็บและมีรูปพระที่นอนบนเตียงใน รพ.มาโชว์ มีคนร่วมบริจาคจำนวนมากด้วยความสงสาร

โดยพบว่าบัญชีที่รับบริจาค เป็นคนละธนาคารกัน แต่ชื่อเป็นบุคคลคนเดียวกันมียอดเงินทำบุญ ตลอดช่วงเวลา 4-5 เดือน รวมกว่าล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามไปทางจังหวัดตากวัดดังกล่าวไม่มีอยู่จริง จึงได้รวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว

จากการสอบสวนนายตะวันให้การยอมรับว่า ได้ทำการฉ้อโกงจริง โดยตอนแรกคิดว่าจะทำบุญจริงแต่พอมียอดเงินเข้ามาเยอะจึงอดใจไม่ไหวเพราะตนเองภาระเยอะ ผ่อนรถหลายคัน ลูกหลายคน ตนเองผีพนันเข้าสิงติดพนันออนไลน์ เงินที่ได้มาทั้งหมดไปเล่นหมดเลย

ทุกวันนี้ต้องมาเช่ารีสอร์ต อยู่อย่างหลบซ่อนเพราะมีปากเสียงกับญาติเนื่องจากโดนด่าว่า ไปโกงเขาระวังจะติดคุก จนตัวเองทนไม่ไหวอยู่บ้านไม่ได้ต้องแยกตัวออกมา ส่วนกลโกงก็แสนจะง่ายโดยจะไป ก๊อปรูปพระป่วย รูปโปสเตอร์กฐินทำบุญ มาโพสต์เรียกเรียกความศรัทธาและความสงสารเพราะรู้ว่าคนไทยเชื่อง่าย

ด้านน.ส.วรวรรณ ให้การปฏิเสธว่า ตนไม่ได้รู้เรื่องในการโกงนี้เลยเลี้ยงลูกอย่างเดียวแต่เงินที่สามีโอนมาให้ในบัญชีก็ร่วมกันใช้จ่ายภายในครอบครัวจริง แต่ในที่สุดก็ถูกผลกรรมที่ทำไว้ตามสนอง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับจนได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกก.2บก.สอท.4 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป