ข่าวรวบหนุ่มนักตุ๋น แอบอ้างรู้จักบิ๊กตำรวจ หลอกช่วยประกันตัวชาวจีนได้ สูญเงิน 1.1 ล้าน - kachon.com

รวบหนุ่มนักตุ๋น แอบอ้างรู้จักบิ๊กตำรวจ หลอกช่วยประกันตัวชาวจีนได้ สูญเงิน 1.1 ล้าน
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s

วันที่ 26 พ.ย. 67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 2

จับกุม นายธนจิตร อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือที่ 645/2566 ลงวันที่เดือนธันวาคม 2566 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” จับกุมได้บริเวณหน้าห้องเช่า พัฒนาการ ซอย 10/1 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน มี.ค. 2565 ผู้เสียหายชาวจีนรู้จักกับ นายธนจิตร โดยมีเพื่อนเป็นคนแนะนำให้รู้จัก ต่อมามีเพื่อนของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคนจีน ถูกตำรวจจับในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ถูกเจ้าที่หน้าที่ตำรวจ ตม.3 คุมขัง ซึ่งผู้เสียหายมีความประสงค์ที่จะประกันตัวเพื่อนออกมาต่อสู้คดี

ทาง นายธนจิตร อ้างว่าตนเองสามารถช่วยเหลือเรื่องประกันตัวได้ แล้วเสนอว่าพ่อของตนเป็นทหารยศพลตรี สนิทกับบิ๊กตำรวจสนิทกับ รองผบช.สอบสวนกลาง ให้ความช่วยเหลือในเรื่องประกันตัวได้ จากนั้นทางผู้เสียหายบอกว่ามีงบในการประกันตัวอยู่ 500,000 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 65 นายธนจิตร บอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน จำนวน 50,000 บาท เป็นค่าเลี้ยงอาหารผู้ใหญ่เป็นรอง ผบช.สอบสวนกลาง ไปทานข้าว โดยผู้เสียหายให้เงินสดกับแฟนซึ่งเป็นคนไทย ให้โอนเงินให้กับนายธนจิตร และในวันเดียวกันนายธนจิตร แจ้งว่าให้โอนเงินมาให้อีก จำนวน 42,600 บาท ผู้เสียหายจึงให้แฟนโอนเงินอีกจำนวน 44,200 บาท และ จำนวน 400 บาท

ต่อมาวันที่ 17 ก.ย. 65 นายธนจิตร ต้องการเงิน 400,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้ให้เงินไปแล้วเป็นจำนวน 92,600 บาท เหลืออีกจำนวน 307,400 บาท จากนั้นจึงให้เพื่อน ช่วยโอนเงินไปให้ นายธนจิตร อีกจำนวนเงิน 307,400 บาท

ต่อมาวันที่ 20 ก.ย. 65 นายธนจิตร แจ้งว่า รองผู้บังคับการตม.3 (พัทยา) ต้องการเงินอีก จำนวน 200,000 บาท ในการประกันตัว ถ้าไม่เช่นนั้น จะไม่ได้ประกันตัว ผู้เสียหายจึงให้แฟนของเพื่อน โอนเงินจำนวน 200,000 บาท แล้วนายธนจิตรบอกว่า วันที่ 5 ต.ค. 65 ให้ไปรับตัวเพื่อนได้เลย ต่อมาเมื่อถึงวันที่ 5 ต.ค. ก็ไม่สามารถประกันตัวได้

นายธนจิตร อ้างว่า ผู้บังคับการตม.3 ต้องการเงินเพิ่มอีกจำนวน 400,000 บาท จึงนัดหมายให้ส่งเงินกันในวันที่ 7 ต.ค. 65 ถ้าให้เงินอีกจำนวน 400,000 บาท โดยนัดหมายส่งมอบเงินกันที่ ห้างและในวันที่ 8 ต.ค. 65 ก็สามารถประกันตัวออกมาได้เลย แต่ก็ไม่สามารถประกันตัวเพื่อนได้อีก ซึ่ง นายธนจิตร อ้างอีกว่า ผู้บังคับการ ตม.3 ต้องการเงินอีก 600,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ตกลงด้วย

จากนั้น นายธนจิตร ผู้ต้องหา ยังอ้างอีกว่า จะหาผู้ใหญ่คนอื่นมาช่วยอีก โดยอ้างว่า เป็น สจ. เป็นเจ้าของเกาะสีชัง ให้เงินอีก จำนวน 50,000 บาท เพื่อไปเลี้ยงข้าวผู้ใหญ่อีกต่อมาเมื่อถึงวันที่ 18 ต.ค. 65 จึงโอนเงินจำนวน 50,000 บาท ไปให้ นายธนจิตร ผู้ต้องหา ต่อมาวันที่ 24 ต.ค. 65 นายธนจิตร ผู้ต้องหา ได้โทรศัพท์มาบอกข้าฯ ว่า ต้องการเงินอีก จำนวน 30,000 บาท ไปเลี้ยงข้าว ผู้บังคับการตม.3 จึงให้แฟนของเพื่อนโอนเงินให้กับ นายธนจิตร

จากนั้น นายธนจิตร ยังบอกอีกว่า สจ. ต้องการเงินอีก 500,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ยอม นายธนจิตร จึงบอกว่าจะหาทนายความไปดำเนินการให้ โดยต้องจ่ายค่าจ้างให้กับ ทนายความเป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท โดยได้โอนเงิน จำนวน 70,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารของ นายธนจิตร แต่ก็ไม่ได้ประกันตัว ทำให้เกิดความสงสัยว่า พ่อของนายธนจิตร ทำไมไม่มียศพลตรี เมื่อโอนเงินให้บัญชีพ่อ

ต่อมาได้โทรติดต่อ นายธนจิตร ก็ไม่ค่อยจะรับสาย บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาว่าติดธุระ จนถึงเมื่อวันที่ 28 เมษายน จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง รวมเป็นเงินทั้งหมดที่ได้ถูกลวงหลอกให้โอนเงินเป็นเงินจำนวน 1,150,000 บาท จึงมาแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อ พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายธนจิตร กับพวกตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหา นายธนจิตร รับสารภาพว่า รู้จักเพื่อนของผู้ต้องหาจริง และอ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และอ้างเพิ่มเติมว่าพ่อของตนเป็นนายทหารยศพลตรี สามารถให้ความช่วยเหลือได้ประกันตัว ผู้ต้องหาชาวจีนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตม.จับไปให้ออกมาได้ จากนั้นมีการออกอุบายให้โอนเงินผ่านนายนิรันดร บิดา จำนวนหลายแสนบาท และอีกจำนวนหลายก้อน

แม้กระทั่งเงินสดที่อ้างว่านำไปเลี้ยงข้าวผู้ใหญ่ ซึ่งตนนำไปใช้ส่วนตัว และไม่ติดต่อผู้เสียหายเพราะตนได้หลบหนีไปอยู่ต่างจังหวัด จนตัวเองกลับมาทำงานที่กรุงเทพมหานคร ได้เพียง 2 เดือน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจับกุมตัวได้ จากการสอบถาม พบว่าพ่อของผู้ต้องหาทำงานเชียร์แขกในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ไม่ได้เป็นทหารตามกล่าวอ้างแต่อย่างใด จากนั้นได้นำตัว ส่ง สน.ห้วยขวาง ดำเนินการต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีนโยบายให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในทางคดีอาญาในทุกคดี อย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างว่ารู้จักบิ๊กตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักการเมืองใหญ่โต ดังที่ปรากฎตามหน้าข่าวปัจจุบัน ว่าสามารถให้การช่วยเหลือในคดีต่างๆได้ โดยที่ต้องใช้เงินในการวิ่งเต้นต่างๆ ขอให้ท่านมีสติ ต่อสู้ไปตามกระบวนการทางกฎหมาย สุดท้ายหากท่านพบการกระทำในลักษณะดังกล่าว ให้รีบโทรแจ้งเรื่องร้องเรียนที่เบอร์ 1599 สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแจ้งที่สถานีตำรวจใกล้บ้านของท่าน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์

.......

ศาลาอรุณนราภิรมย์ ศูนยฺ์ร่วมบุญสั่งจองบูชา เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

เนื้อทองแดงหน้าเงินลงยา ขนาด 3.5 เซนติเมตร เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี รายได้สมทบกองทุนการศึกษาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

สุดยอดมวลสารในพระผงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี เนื้อผงพุทธคุณ 108 ชนิดฝังตะกรุดทองคำ 1 คู่ และแบบฝังตะกรุดเงิน 1 คู่(คลิ๊ก)

ชุดกรรมการ จัดรวม 100 ชุด (หมายเลขเดียวกัน) เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

เหตุผลหลักสำคัญในการในการจัดสร้างวัตถุมงคลพญายักษ์วัดแจ้ง รุ่นมหาบารมี เพื่อร่วมบุญสมทบทุนโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์ถนนโบราณและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคภายในวัดอรุณราชวราราม (คลิ๊ก)

ผงพุทธคุณมหาบารมี เศรษฐีพันล้าน สุดยอดมวลสารแห่งยุคที่บรรจุใต้ฐาน รูปหล่อพญายักษ์วัดแจ้ง รุ่นมหาบารมี ขนาด 4 นิ้ว และขนาด 1.5 นิ้ว เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวะแก่เงิน (คลิ๊ก)

ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)

บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี เนื้อทองแดงลงยา ลายธงชาติ ช่วยชีวิตหนุ่มใหญ่ให้รอดตายจากเหตุรถพลิกคว่ำหลายตลบพุ่งชนเสาบอกทาง (คลิ๊ก)

บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)