ข่าวบุกจับ ป้าโหด ซื้อเด็ก 8 ขวบ จากเมียนมา บังคับใช้งานเยี่ยงทาส ไม่ถูกใจทุบตี - kachon.com

วันที่ 12 พ.ย.2567 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม.นำกำลัง ร่วมกับ น.ส.จันจิรา ไทยบัณฑิตย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี เข้าจับกุม น.ส.พรทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี นายสมาน (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี และ น.ส.นาว สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 5464-5466/2567

ข้อหา “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยเป็นธุระจัดหาพามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หรือรับไว้ซึ่งบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี”

ทั้งนี้สืบเนื่องจากข่าว “สะเทือนใจ เด็กหญิง 8 ขวบ ถูกแม่ตี-ไล่ออกจากบ้านหอบตุ๊กตาคู่ใจนอนตากยุงในสุสานเพียงลำพัง” เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายหลัง เจ้าหน้าที่พม.ชลบุรี ไปรับตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวไปดูแล เชื่อว่าน่าจะเป็นบุคคลต่างด้าว ซึ่งไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ เนื่องจากมีความบอบช้ำ ตรวจพบบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็งตามร่างกายหลายแห่งด้วย

ต่อมาตำรวจหญิง กก.2 บก.ปคม. เข้าร่วมซักถามจนพบว่าเด็กผู้เสียหายเป็นชาวเมียนมา และเป็นเหยื่อจากขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยทราบว่า มีน.ส.นาว เป็นผู้ไปขอซื้อเด็กมาจากพ่อ-แม่ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศเมียนมา โดยจัดทำหนังสือรับเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งเป็นนิติกรรมอำพราง

จากนั้นพาเข้าประเทศส่งตัวมาที่บ้านพักของนายสมาน ที่ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ก่อนถูกส่งตัวไปที่บ้านพักของน.ส.พรทิพย์ ที่อ.เมืองชลบุรี นายจ้างที่รับมาเป็นคนใช้ทำงานบ้าน คอยหุงข้าวเลี้ยงหมา หรือบริการอื่นๆ

ภายหลังเมื่อเด็กผู้เสียหายอยู่ที่บ้านของน.ส.พรทิพย์ ทุกครั้งที่ทำงานไม่ถูกใจจะถูกทำโทษอย่างหนัก ทั้งทำร้ายร่างกายโดยใช้ไม้ตี บางครั้งก็จับขังตัวเอาไว้ในห้อง และไม่ให้กินข้าว เมื่อเด็กร้องจะขอกลับบ้าน น.ส.พรทิพย์ก็บอกว่า ต้องให้แม่นำเงินมาคืนก่อน

จนสุดท้ายเด็กทนไม่ไหวต้องหลบหนีออกมาจนกลายเป็นข่าว ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมน.ส.พรทิพย์ ยังเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงอีกคน ที่ทำงานอยู่ในบ้านด้วย เชื่อว่าก็น่าจะเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ด้วยเช่นกัน

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานภาพในกล้องวงจรปิด ในขณะ น.ส.พรทิพย์ กำลังขู่ตะคอกเด็กผู้เสียหายเมื่อทำงานผิดพลาด บางครั้งลงมือทุบตีทำร้ายร่างกายด้วย จึงรวบรวมไว้หลักฐาน ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป