ข่าวพี่ชายเศร้า รับศพน้องถูก วิสามัญ ถ้าผิดจริงว่าไปตามกฎหมาย แฉประวัติมีคดีเอี่ยวการพนัน - kachon.com

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.67 ที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นายสุขสม อายุ 50 ปี พี่ชาย นายมงคล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกตำรวจวิสามัญ ภายในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 1 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม.เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมครอบครัว นำเอกสารและเดินทางมาที่นิติเวช เพื่อติดต่อขอรับร่างนายมงคล

นายสุขสม เล่าว่า เมื่อคืนนี้ตัวเองทราบเรื่องจากลูกชายว่า น้องถูกตำรวจจับ ตกใจจึงรีบไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ระหว่างทางมีคนโทรมาบอกว่า น้องชายถูกยิงไปแล้ว เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พยายามจะขอเข้าไปดูศพน้องชาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกันไม่ให้เข้า ทั้งที่ตัวเองบอกว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ ก็ไม่ให้เข้า อีกทั้งยังไม่ให้ข้อมูลอะไร จนผ่านไปนานกว่าจะได้เข้าไปดู ก็เห็นว่าน้องชายถูกยิงอย่างต่ำ 6 นัด ซึ่งมีบริเวณ ท้อง ราวนม แขน และหลัง

นายสุขสม กล่าวต่อว่า ส่วนตัวสงสัยว่าขณะที่เกิดเหตุทางกู้ภัยไม่ได้แจ้งเหตุทางวิทยุ รวมถึงนักข่าวไม่ทราบเหตุนี้ จึงสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปิดข่าวหรือไม่ และมองว่าเหตุการณ์นี้มีความแปลก และน่าสงสัย ซึ่งตัวเองไม่รู้และไม่สามารถตอบได้ว่า ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ แต่รู้สึกสงสัยว่า ทำไมเหตุที่น้องชายถูกวิสามัญเสียชีวิตใจกลางกรุงแบบนี้ เรื่องถึงเงียบและกันพื้นที่กว้าง

ด้านแฟนสาวของน้องชาย ทราบมาว่าทั้งคู่คบกันมา 7 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน ซึ่งแฟนสาวเป็นสาวนั่งดริ้ง ทั้งคู่เพิ่งจะมาทะเลาะกันในภายหลัง เพราะมีสาวหล่อมาติดพันฝ่ายหญิง

โดยก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ทั้งคู่เพิ่งจะทะเลาะกัน จนแฟนสาวหนีออกจากบ้าน ทำให้น้องชายพยายามไปตามง้อแฟนที่ร้านดังกล่าวบ่อยครั้ง หลังเกิดเหตุตัวเองพบกับแฟนของน้องชายที่สน.บางรัก แต่ไม่ได้พูดคุยกัน จนถึงตอนนี้ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้สนิทกับแฟนสาวของน้องชาย

“ส่วนเรื่องอาวุธปืนของน้องชายนั้น ส่วนตัวไม่รู้ และที่น้องชายอ้างว่าเป็นตำรวจในพื้นที่นครบาล 6 ยืนยันว่าน้องชายเป็นประชาชนธรรมดา ไม่ได้เป็นตำรวจ หากน้องชายเป็นคนยิงตำรวจก่อน ผิดก็ว่าไปตามผิด ด้านนิสัยใจคอนั้น น้องชายเป็นคนมีเพื่อนเยอะ แต่กับเรื่องแฟนน้องชายจะขี้หงุดหงิดและขี้หึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองรู้สึกกังวล เนื่องจากน้องชายมีลูกเล็ก 4 คน ที่เกิดจากเมียคนเก่าต้องดูแล หลังจากนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ” นายสุขสม กล่าว

จากข้อมูลการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายมงคลมากับเพื่อนอีก 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คัน ส่วนสาเหตุที่มาสถานบันเทิงเพื่อมาตามหาแฟนสาว ที่ย้ายออกจากบ้านประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อนายมงคลไปถึงบริเวณหน้าสถานบันเทิง อ้างตัวเป็นตำรวจ เพื่อที่จะเข้าไปตามหาแฟนสาว พนักงานรักษาความปลอดภัยไม่ให้เข้า นายมงคลจึงมีปากเสียงกันและอาละวาด ก่อนที่ทางร้านจะแจ้งตำรวจให้ช่วยเข้าระงับเหตุ

เมื่อตำรวจรับแจ้งเหตุจึง สายตรวจของสถานีตำรวจนครบาลบางรักในเครื่องแบบ 2 คน เข้าไปถึงที่เกิดเหตุทันที แต่เมื่อตำรวจเห็นว่าจำนวนของผู้ก่อเหตุมีมากกว่า จึงเรียกกำลังสนับสนุน โดยเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบแต่งกายครึ่งท่อน อีก 2 คน

เมื่อมาถึงจึงพยายามเข้าห้ามปรามและขอตรวจค้น บริเวณที่รถจักรยานยนต์ แต่ในขณะที่ตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น กลุ่มเพื่อนของนายมงคลเดินหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ ตำรวจพยายามเดินเข้าไปตรวจค้นที่ตัวของนายมงคล เพื่อตรวจสอบหาอาวุธ

แต่นายมงคลกลับชักอาวุธปืนออกมา ไล่ยิงใส่ตำรวจจำนวนหลายนัด ตามภาพวงจรปิด ทำให้ตำรวจที่เดินตามไปตรวจคน 2 คนวิ่งหนีเอาตัวรอด ตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 คน ที่ตรวจค้นรถจักรยานยนต์อยู่เห็นเหตุการณ์ จึงพยายามยิงเพื่อระงับเหตุ แต่นายมงคลยิงต่อสู้ จึงตัดสินใจวิสามัญดังกล่าว

ส่วนสาเหตุที่ตำรวจต้องปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ทางญาติหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ เนื่องจากในพื้นที่เกิดเหตุมีการยิงต่อสู้กัน ปลอกกระสุนปืนตกในพื้นที่เกิดเหตุหลายจุด จึงจำเป็นต้องกั้นพื้นที่เป็นวงกว้าง ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางตำรวจก็อนุญาตให้พี่ชายของผู้เสียชีวิตเข้าไปดูศพทันที นอกจากนี้ ตำรวจตรวจสอบประวัติของผู้เสียชีวิตพบว่าเคยมีคดีเกี่ยวกับการพนันในพื้นที่ของ สน.ปทุมวัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งให้พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการ สน.บางรัก รายงานเหตุการณ์อย่างละเอียด ชี้แจงให้กับทางญาติของผู้เสียชีวิต ที่ติดใจการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย