ข่าวจับ 'เอกกี้' โมเดลลิ่งเก๊ หลอกพาแคสงาน แอบฉกทรัพย์สินเหยื่อ ประวัติเพียบ - kachon.com

สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. สืบทราบว่า มีคนร้ายออกก่อเหตุลักทรัพย์ผู้อื่น ใช้นามว่า “เอกกี้ หรือแทน หรือบีม” โดยใช้วิธีหลอกผู้เสียหายว่าเป็นโมเดลลิ่ง เข้าไปคุยกับ ทำทีสนใจ แล้วขอเบอร์โทรไว้พูดคุยกับผู้เสียหาย จากนั้นจะหลอกพาไปแคสงานเพื่อเข้าวงการ และอาศัยช่วงที่พาผู้เสียหายไปทำผม ฉกเอาทรัพย์สินหนีหายไป

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯพ.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร สว.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการที่1 ร.ต.อ.พงศกร อินทร์คง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.

จับกุมตัว นายกรีลัลติกาล หรือเอกกี้ อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.979/2567 ลงวันที่ 16 ก.ค.2567 ข้อหา“ลักทรัพย์” จับกุมที่บริเวณบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย

สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้มีชาย 1 คน ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง เชิญชวนให้ผู้เสียหายมาเเคสเพื่อร่วมงานโฆษณา โดยนัดในวันที่ 20 พ.ค.67 ให้ไปเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า ต่อมาชวนผู้เเจ้งมาที่ตลาดมีนบุรี โดยอ้างว่ากองถ่ายอยู่ที่หลังตลาดมีนบุรี

ต่อมาเวลาประมาณ 14.30 น. ชายดังกล่าวให้ผู้เเจ้งเข้าไปทำผมอยู่ที่ร้านภายในตลาดมีนบุรี เมื่อทำผมเสร็จเเล้วปรากฏว่าชายดังกล่าวหายไป ผู้เเจ้งจึงตรวจสอบทรัพย์สิน ทราบว่ามีทรัพย์ของตนที่วางเก็บใส่กระเป๋าไว้

ดังนี้ 1.Ipad Air 5 สีทอง ราคาประมาณ 23,000 บาท 2.Iphone สีขาว ราคาประมาณ 20,000 บาท หายไป จึงมาเเจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติในฐานระบบ พบมีประวัติดังนี้ ปี 2551 คดีลักทรัพย์ สน.โชคชัย ปี 2551 คดีลักทรัพย์ สน.ลุมพินี ปี 2556 คดีลักทรัพย์ สภ.พระประแดง ปี 2560 คดีลักทรัพย์ สน.ทองหล่อ
ปี 2565 คดีร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ปี 2567 คดีลักทรัพย์ สน.มีนบุรี (ที่ถูกจับนี้)

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่า ผู้ต้องหาเจอผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์และพูดคุยกันทั่วไป โดยผู้ต้องหาแจ้งว่าตนทำงานที่กองถ่ายและชวนมาลองแคสงาน จากนั้นจึงแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ 2 วันต่อมา ผู้ต้องหานัด ผู้เสียหายมาเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าและชวนมาทำทรงผมที่ตลาดมีนบุรี

ก่อนที่จะไปแคสงาน หลังจากนั้นยืมโทรศัพท์ผู้เสียหายโทรหาเพื่อนและ หลังจากนั้นอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายทำผมอยู่นำกระเป๋าของผู้เสียหายไป ข้างในมี iPad Air 5 สีทอง ราคาประมาณ 23,000 บาท และ iPhone สีขาว ราคาประมาณ 20,000 บาท

จากนั้นนำไปขายคนเขมร ซึ่งรู้จักผ่านเพื่อน ชื่อนายแม ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง แถวบริเวณหัวลำโพง ได้เงินมาราคา 16,000 บาท และเอาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาก่อคดีลักทรัพย์โดยใช้แผนประทุษกรรมที่กล่าวมาข้างต้นทุกครั้ง หลังจากถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ เพื่อหาเงินมาตั้งตัว จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนภัยไปยังประชาชนที่มีความฝันอยากเข้าวงการบันเทิง ปัจจุบันมิจฉาชีพมีอยู่เป็นจำนวนมาก

ขอให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ควรตรวจสอบที่มาที่ไปของโมเดลลิ่งให้รอบคอบ อย่าเชื่อใจคนง่าย เพราะถ้าพลาดไป อาจจะลวงไปลักทรัพย์ หรือล่วงละเมิดถูกแบล็คเมล์และขอแจ้งประชาชน หากท่านเคยตกเป็นผู้เสียหายของผู้ต้องหารายนี้ ขอให้รีบแจ้งร้อยเวรอายัดตัวโดยเร็วที่ สน.มีนบุรี