รวบพ่อบังเกิดเกล้า ล่วงละเมิดลูกในไส้ อัดคลิปส่งให้ชายอื่นดู สร้างตราบาปให้เด็ก
ข่าวประจำวัน
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.,พล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในสังคม โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.
ออกลาดตระเวนออนไลน์จนทราบว่า มีคนร้ายชื่อ นายสรณคม ก่อเหตุบังคับล่วงละเมิดกับลูกตัวเอง และยังถ่ายคลิปเก็บไว้ หนำซ้ำยังส่งคลิปไปให้ผู้อื่นดู เพราะเกิดความหึงหวง สร้างตราบาปให้กับผู้เสียหาย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.สส.3ฯ จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. รับทราบ จากนั้นจึงกำชับให้ พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 6 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย , พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.
สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์, ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก,จ.ส.ต.ภานุพงศ์ เวฬุวนารักษ์, จ.ส.ต.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ, จ.ส.ต.นิติสิทธิ์ โชติคุต, ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา ช, ส.ต.อ.ภาสกร บัวอ่วม ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการเจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.
จับกุมตัว นายสรณคม หรือแขก (สงวนนามสกุล) อายุ 36 บุคคลตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1042/2567 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน และกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน” สถานที่จับกุม บริเวณห้องเช่า แห่งหนึ่ง ซอยสุวินทวงศ์ 13 แยก 19 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.67 เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน (อาศัยอยู่ด้วยกัน 10 คน) เหลือเพียงเด็กผู้เสียหายและนายสรณคม จากนั้นนายสรณคมเรียกเด็กผู้เสียหายเข้ามาในห้อง ซึ่งอยู่ชั้น 1
นายสรณคมล็อคห้องและชวนเด็กผู้เสียหายคุย
จากนั้นล่วงเกินเด็กผู้เสียหาย เด็กผู้เสียหายพยายามขัดขืน แต่สู้แรงของนายสรณคมไม่ได้ เด็กผู้เสียหายได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ของป้า เด็กผู้เสียหายจึงสะบัดตัวหนีและวิ่งออกจากห้องไปบอกกับป้า จากนั้นป้าจึงไปบอกกับนายสรณคมว่าไม่ให้มายุ่งกับเด็กอีก
ต่อมาวันที่ 14 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 20.00 น. นายสรณคมก็ขึ้นมามาที่ห้องของเด็กผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ชั้น 2 และชวนเด็กผู้เสียหาย จากนั้นเด็กผู้เสียหาย จึงเผลอหลับไป หลังจากที่เด็กผู้เสียหาย ตื่นขึ้นมา พบว่าถูกถอดเสื้อผ้าและรู้สึกเจ็บที่อวัยวะ ผู้กล่าวหาได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด
หลังจากการจับกุม นายสรณคม ให้การว่า ตนมีอะไรกับเด็กผู้เสียหายจริง อ้างว่ามีความรักต่อเด็ก และมีความสัมพันธ์กันประมาณ 1- 2 ปี เริ่มต้นเดิมทีเด็กผู้เสียหายเป็นลูกติดจากภรรยาเก่า และปฏิเสธว่าไม่ใช่ลูกของตน ตนเพียงแค่รับเป็นพ่อเท่านั้น เพราะตนเชื่อว่าภรรยา(แม่ของผู้เสียหาย) ไปท้องกับคนอื่น
ต่อมาตนเลิกรากัน และมีภรรยาใหม่มีลูกด้วยกัน 3 คน เมื่อลูกสาวคนเล็กกับภรรยาใหม่อายุ 2 ขวบ ได้รับเด็กผู้เสียหายมาอยู่กับครอบครัวใหม่ เพื่อให้มาช่วยเลี้ยงลูกสาวคนเล็กของภรรยาใหม่ เมื่ออยู่ด้วยกันแอบคบหากันมาจนบัดนั้นเป็นต้นมา โดยที่ภรรยาใหม่ไม่รู้
จากการซักถามผู้ต้องหาให้การวกวนพบพิรุธหลายประการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของตัวผู้ต้องหา พบคลิปวิดีโอขณะล่วงเกินจำนวนหลายคลิป และมีลูกสาวคนเล็กของภรรยาใหม่ปรากฏในวิดีโอคลิปด้วย ภาพและวิดีโอโป๊เปลือยจำนวนมาก เป็นต้น
และยังพบการส่งวิดีโอคลิปให้กับบุคคลอื่นในช่องทาง แชทเฟซบุ๊กอีกด้วย จากการซักถามพบว่า จับได้ว่าเด็กผู้เสียหาย เริ่มคบหาเพื่อนชายในวัยเดียวกัน ตนแอบดูแชทเฟซบุ๊กระหว่างเด็กผู้เสียหายและเพื่อนชายของ จึงเกิดความโมโห จึงส่งภาพและคลิปวิดีโอให้เพื่อนชายคนดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง ต่อมาภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบวิดีโอคลิปขณะที่ผู้ต้องหาบังคับให้เด็กผู้เสียหายขอโทษและกราบเท้าตน
เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งจากมารดาของเด็กผู้เสียหายว่า ตนเลิกรากับผู้ต้องหามาหลายปี ไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะทำกับลูกสาวตนถึงเพียงนี้ เพราะลูกสาวไม่เคยบอกตนเลยแม้แต่สักครั้งจนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้นตนเพิ่งทราบเรื่องทั้งหมด และประสานกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินคดี
ต่อมาและยินดีที่จะตรวจ DNA ด้วย เพราะตนไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่ตัวผู้ต้องหากล่าว และยังบอกว่าตัวผู้ต้องหามักจะเป็นคนดื่มสุราเป็นอาจินและชอบโกหกอยู่เสมอ ตนจึงตัดสินใจเลิกราแต่ครั้งนั้นมา จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.หนองจอก ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่ถือเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเกิดกับคนใกล้ตัวในสถาบันครอบครัว สร้างตราบาปให้กับผู้เสียหาย สิ่งหนึ่งที่คนรอบตัวควรจะให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความปลอดภัยก็คือ
ต้องคอยเช็กคอยสังเกตอาการว่าเกิดอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ เราสามารถสังเกตพฤติกรรมของเด็กได้ ดังนี้ เด็กมีบาดแผล หรือรอยฟกช้ำตามร่างกาย มีอาการหวาดกลัว ซึมเศร้า วิตกกังวล เก็บตัว ไม่ยอมออกไปพบปะเพื่อน หรือไม่สุงสิงกับใคร
มีความคิดอยากทำร้ายร่างกายตัวเอง มีอาการนอนไม่หลับ ฝันร้าย อาจหนีออกจากบ้าน หรือกลัวการกลับบ้านการเรียนแย่ลง หรือไม่สนใจการเรียน ความปลอดภัยเป็นพื้นฐานความต้องการของมนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศเป็นการคุกคามทั้งทางร่างกาย และจิตใจ การดูแลเอาใจใส่บุตรหลานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เหตุการณ์อันเลวร้ายดังกล่าวไม่เกิดขึ้นกับบุตรหลานของตนเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์
.......
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
ปาฏิหาริย์อีกครั้ง เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ช่วยชีวิตคุณยายวัย 73 ปี ให้รอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ (คลิ๊ก)พระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดอรุณ พระผู้สร้างเหรียญพระเจ้าตากชาววัดอรุณ หนึ่งเดียวในตำนานประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี (คลิ๊ก)
สแกน QR Code เพื่อการเที่ยวชมความจริงของวัดอรุณราชวรารามแบบจำลองความจริงทั้งพระบถ
QR Code เพื่อการสำรวจความงามของวัดอรุณทั้งพระอาราม.
QR 碼以探索黎明寺的美麗。整個修道院。