ข่าวจับคาบ้าน "หญิง เนตรนภา" แม่ค้าออนไลน์ ไม่ส่งของ ผู้เสียหายเพียบ - kachon.com

วันที่ 13 ก.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น ร่วมกับนักเรียนอบรมหลักสูตร TOP G จับกุม น.ส.เนตรนภา หรือ หญิง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 319/2567 ลงวันที่ 26 เม.ย. 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

รวบคาบ้าน “หญิง เนตรนภา” แม่ค้าออนไลน์ ไม่ส่งของให้ลูกค้า พบผู้เสียหายเกือบ 100 ราย เปิดปากสารภาพ ไม่มีของอยู่กับตัว เอาเงินไปใช้จ่ายแล้ว

โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน

ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด” จับกุมได้หน้าบ้านพักหลังหนึ่ง ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ตรวจสอบพบมีหมายจับอีก 3 หมาย ได้แก่

ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ จ.148/67 ลงวันที่ 24 เม.ย.67 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”,

ศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 297/64 ลงวันที่ 4 พ.ย.64 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ศาลอาญา ที่ 2824/2565 ลงวันที่ 19 ธ.ค.65 “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ทำการลงประกาศขายสินค้าในแพล็ตฟอร์มเฟซบุ๊กมาร์เก็ตเพลส ซึ่งคือเครื่องปั๊มนมในราคาประมาณ 3,000 บาท จากนั้น ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อไปซื้อและได้ทำการโอนเงินไปที่บัญชีชื่อ น.ส.เนตรนภา

เมื่อโอนเงินไปแล้วปรากฏว่าผู้เสียหายไม่ได้รับสินค้าตามที่ได้ตกลงกับผู้ขาย และไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้อีกจึงเชื่อได้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินไปทำให้เกิดความเสียหาย

จึงมาพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจสอบพบผู้เสียหายในหลายพื้นที่กว่า 80 ราย โดยมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 37,000 บาท

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับว่า ตนเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ สินค้าประเภทกิฟท์ช็อปและเครื่องประดับ โดยจะโพสต์ขายของตามเพจเฟซบุ๊กต่าง ๆ แต่ว่าตนไม่มีสินค้าอยู่กับตัว ถ้ามีลูกค้าสั่งสินค้า ตนก็จะสั่งของจากที่อื่นเพื่อส่งให้ภายหลัง แต่ก็ไม่ได้ส่งให้ทุกครั้ง เพราะบางครั้งก็จะเอาเงินมาใช้จ่ายส่วนตัวก่อน

จากนั้น ได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป