ข่าวจับหัวหน้าแก๊งรัสเซียปลอม-จำหน่ายพาสปอร์ต ขายออนไลน์เสียหายกว่า 30 ล้านบาท - kachon.com

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผบช.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 ร่วมกันแถลงการจับกุมผู้ต้องหาหัวหน้าแก๊งรัสเซียปลอม นำเข้า จำหน่ายหนังสือเดินทางปลอม และหลอกทำหนังสือเดินทาง ความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม. ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุม นายอาเทม (นามสมมติ) อายุ 44 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐาน “ทำหนังสือเดินทางปลอม, จำหน่ายหนังสือเดินทางปลอมฯ, นำเข้าหนังสือเดินทางปลอมฯ”

หลังเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนในทางลับเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ทำหนังสือเดินทางปลอม จนพบขบวนการดังกล่าวมีการนำเข้าหนังสือเดินทางและจำหน่าย ในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ได้รับภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางปลอม ของประเทศสหรัฐอเมริกา จากการตรวจสอบ พบลักษณะพิรุธ

มีความผิดปกติหลายจุด น่าเชื่อว่าจะเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงได้มีหนังสือสอบถามไปยังหน่วยสืบสวนอาชญากรรมข้ามชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา Overseas Criminal Investigations Unit (OCIU) ประจำประเทศไทย และได้รับการยืนยันว่า “หนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นหนังสือเดินทางปลอม”

จากการสืบสวน พบว่าขบวนการดังกล่าวได้มีการลงโฆษณาอย่างโจ่งแจ้ง ในแอพพลิเคชัน VK, Telegram, WhatsApp และผ่านเว็บไซต์(passpart.pro) ว่าสามารถทำหนังสือเดินทางได้ 15 สัญชาติ ซึ่งเป็นการขอสัญชาติแบบถูกต้อง โดยมีการชำระเงินผ่านบัญชีเงินดิจิทัล และได้มีการเปิดบริษัท

ในประเทศไทยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ มีผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อ ซึ่งผู้เสียหายหลายรายไม่ได้รับหนังสือเดินทาง และบางรายที่ได้รับหนังสือเดินทางก็เป็นหนังสือเดินทางที่ปลอมขึ้น จากการตรวจสอบพบว่าหนังสือเดินทางที่ปลอมขึ้นดังกล่าวนั้น ส่งมาโดยบริษัทขนส่ง FEDEX จากสาธารณรัฐโดมินิกัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทราบว่าหัวหน้าของกลุ่มขบวนการดังกล่าวคือ นายอาเทม (นามสมมติ) สัญชาติรัสเซีย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ และได้ขออนุมัติหมาย เข้าตรวจค้น และจับกุมตัวได้ ภายในห้องพักในคอนโดมิเนียมย่าน ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ

พร้อมกับตรวจยึดพยานหลักฐาน โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก สมุดบัญชี และบัตรเครดิตของต่างประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบขยายผลพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันทำ มีบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ ที่สาธารณรัฐโดมินิกันรับคำสั่ง ในการทำหนังสือเดินทางปลอม

ส่วน นายอาเทม ทำหน้าที่โฆษณา และพูดคุยกับผู้เสียหายทั้งหมด และจัดการเรื่องเงินที่ได้รับจากผู้เสียหาย ทั้งนี้ผู้เสียหายไม่ทราบว่าหนังสือเดินทางนั้นเป็นของปลอม ทำให้มีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมากโดยการติดต่อซื้อขายนั้นกระทำผ่านแอพพลิเคชัน TELEGRAM ความเสียหายที่ตรวจพบเบื้องต้นทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท