ข่าวบุกจับ 3หนุ่ม ขนกระสอบ เฮโรอีน-ยาเค ซุกหมู่บ้านดัง เผยได้ค่าจ้างครึ่งแสน - kachon.com

วันที่ 31 ม.ค. 67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผบช.น. พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส. พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.ดส. เข้าสืบสวนติดตามจับกุม นายภสุ อายุ 26 ปี นายกฤษดา อายุ 23 ปี และ นายคามิน อายุ 25 ปี

ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน,ยาอี) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า, ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต

พร้อมด้วยของกลาง เฮโรอีนอัดแท่ง 10 แท่ง น้ำหนักรวม 4 กก. เคตามีน 15 ถุง น้ำหนักรวม 15 กก.ยาอี 10 เม็ด รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว โทรศัพท์ 3 เครื่อง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ไม่ทราบขนาด 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 5 นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด จับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากรับแจ้งว่า มีชายไทย ใช้รถยนต์ ลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้า ภายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง ตำรวจจึงสืบสวนทราบว่า คือนายภสุ และ นายกฤษดา โดยนำยาเสพติดไปเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว จากการตรวจสอบและซุ่มดูพบ นายภสุ ขับรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน พร้อมกับยกถุงกระสอบสีขาวจากกระโปรงหลังรถอุ้มเข้าไปในบ้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเพื่อขอเข้าตรวจค้นพบของกลางเฮโรอีนอยู่ภายในบริเวณกระโปรงหลัง จึงได้ซักถาม นายภสุ ยังมียาเสพติดซุกซ่อนไว้อยู่อีกหรือไม่ ซึ่งให้การว่ายังมียาเสพติดซ่อนอยู่ภายในบ้านอีกจำนวนหนึ่ง จากการตรวจค้นพบ นายคามิน อยู่ภายในบ้าน จึงเข้าตรวจค้นพบของกลางเพิ่ม

จากการสอบถาม นายภสุ ให้การรับว่ายาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบนั้น เป็นของตนและนายกฤษดา จริง โดยได้ขับรถยนต์ไปรับมาจากชายไทยไม่ทราบชื่อตามคำสั่งของนายหมาไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไป โดยจะได้รับค่าจ้างในการไปรับยาเสพติดครั้งละประมาณ 50,000 บาท โดยแต่ละครั้งตนจะเป็นคนนัดหมายสถานที่นัดรับยาเสพติดและนายกฤษดา มีหน้าที่เป็นคนขับรถไปยังสถานที่นัดรับยาเสพติด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ทั้ง 3 คน จากนั้นจึงนำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลางมาทำบันทึกที่ กก.ดส. ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป