ข่าวจับบิ๊กล็อต ยาบ้า 25 ล้านเม็ด เอกซเรย์เจอไอซ์ 1 ตัน พ่อให้ลูก นั่งรถมาตบตาตร. - kachon.com

จับบิ๊กล็อต ยาบ้า 25 ล้านเม็ด เอกซเรย์เจอไอซ์ 1 ตัน พ่อให้ลูก นั่งรถมาตบตาตร.
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นการใช้ทุกมาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด และยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.,พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร.,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา,พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี,

พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งเน้นในการเร่งรัดดำเนินการป้องกันปราบปราม ยาเสพติดในทุกมิติ เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและเป็นภัยสังคม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ม.ค.67 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง,พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 ,พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4,

พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส., พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.อาทร ชิ้นทอง ผบก.ประจำ บช.ปส. และผู้แทนสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมแถลงผลการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดและยึดทรัพย์สินรายสำคัญ 8 คดี ผู้ต้องหา 16 คน ของกลางยาบ้า 25 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,000 กิโลกรัม และยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ 15 ล้านบาท

คดีแรก สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พ.ค.66 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านพักของ “เครือข่ายนายจรัญ” สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ของกลาง ไอซ์ 36 กิโลกรัม พร้อมยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบได้กว่า 41 ล้านบาท จากนั้นขยายผลพบ เครือข่ายชื่อ“หมูอ้วน” มีความเชื่อมโยงกับ “เครือข่ายนายจรัญ” จึงติดตามพฤติการณ์พบว่า น.ส.คณาปภัส หรือ หมูอ้วน และน.ส.อรัญญา ติดต่อสั่งยาบ้าจากผู้ค้าในประเทศเพื่อนบ้านให้ลำเลียงจากภาคเหนือมาส่งที่บ้านพักย่านพื้นที่ปทุมธานี

กระทั่งกลางดึกวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมตัว 3 ผู้ต้องหาคือนายอนุพงษ์ได้ขณะขับรถกระบะหมายเลขทะเบียน บว 12xx เชียงราย ซึ่งดัดแปลงตัวถังรถเพื่อซุกซ่อนยาบ้า 1,240,000 เม็ด มาส่งให้กับ น.ส.คณาปภัส และ น.ส.อรัญญา บริเวณหน้าหมู่บ้าน ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พร้อมกันนี้ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบจำนวน 4 รายการ อาทิ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 1 หลัง, ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 1 หลัง, รถกระบะ และรถยนต์ อย่างละ 1 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 15 ล้านบาท

คดีที่ 2 ตำรวจ กก.1 บก.ปส.2 ตรวจสอบพบเครือข่ายลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยลำเลียงจากพื้นที่ กทม. ไปส่งกลุ่มเครือข่ายภาคใต้ ต่อมากลางดึกวันที่ 9 ม.ค.67 พบรถเป้าหมายเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เข้ามายัง กทม. เพื่อรับยาเสพติดนำไปส่งยังพื้นที่ภาคใต้ กระทั่งเช้ามืดวันที่ 10 ม.ค.67 พบรถมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เป้าหมาย ขับเข้าไปจอดเติมน้ำมันภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.กุยบุรี

ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุมนายเชษฐ์พงษ์ หรือโจ้ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถ บริเวณหน้าร้านกาแฟ พร้อมยาบ้าจำนวน 1.6 ล้านเม็ด อยู่บริเวณด้านหลังภายในรถยนต์ ส่วนรถยนต์สำรวจเส้นทางเร่งเครื่องยนต์หลบหนีไป

คดีที่ 3 ตำรวจ กก.1 บก.ปส.2 สืบทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายมักลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ กทม. ไปส่งให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ทางภาคใต้ และว่าจ้างกลุ่มคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ให้ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดกระทั่งเที่ยงคืนของวันที่ 15 ม.ค.67

เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว พบความเคลื่อนไหวในเขตประเวศ กทม. ต่อเนื่องถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) มุ่งหน้าถนนพระราม 2 และตัดเข้าถนนเพชรเกษม พบรถหมายเลขทะเบียน 7กณ-15xx กทม. และรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 6กว-90xx กทม. ลักษณะบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนัก ขับตามกันมา

กระทั่งเวลา 03.35 น. รถทั่ง 2 คัน ขับเข้ามาในพื้นที่อำเภอปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่รถหมายเลขทะเบียน 6กว-90xx เข้ามาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อภายในบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ปราณบุรี ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ซึ่งในระหว่างนั้น ผู้โดยสารคนที่นั่งข้างคนขับรถได้เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ แต่คนขับเห็นตำรวจจึง ขับรถเร่งเครื่องหวังขับหลบหนี ก่อนจะถูกสกัดรถไว้ได้

และทราบชื่อภายหลังคือ นายปิยะวัตร์ หรือบาส เป็นผู้ขับขี่ และควบคุมตัวนายจักรพันธ์ ได้ภายในบริเวณร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะนำตัวมาตรวจค้นรถหมายเลขทะเบียน 6กว-90xx กทม.

พบวัตถุอยู่ในกระสอบสีขาว 8 กระสอบ ภายในมีของลักษณะเป็นแพ็ค จำนวน 320 แพ็ค พบเป็นยาบ้า รวม 3,200,000 เม็ด วางอยู่บริเวณห้องโดยสารและด้านหลังของรถ ส่วนรถยนต์อีก 1 คัน สามารถติดตามจับกุมได้บริเวณริมชายหาดหน้าโรงแรม พบน.ส.เกศิณี หรือเกด และ น.ส.วรรณวิสา หรือเป้ 2 พี่น้อง นั่งรับประทานอาหารอยู่บริเวณริมชายหาด สอบสวน น.ส.เกศิณี สารภาพว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของผู้ว่าจ้างให้ตนขับมาเพื่อสำรวจเส้นทาง

คดีที่ 4 สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด 2 เครือข่าย เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 และ15 ม.ค.67 ตำรวจ บก.ปส.2 จึงขยายผลทราบว่ายาเสพติดมาจาก จ.บึงกาฬ ลำเลียงส่งปลายทางกรุงเทพมหานคร ต่อมาวันที่ 24 ม.ค.67 พบความเคลื่อนไหวว่าเครือข่ายนี้จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นตอนในอีกครั้ง โดยใช้รถ 3 คัน

ขับในลักษณะติดตามกันมาจาก จ.บึงกาฬ, จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี มุ่งหน้าถนนหมายเลข 2 ไปทาง จ.ขอนแก่น ก่อนจะสกัดจับได้บริเวณริมถนนมิตรภาพใกล้หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ต่อเนื่องบริเวณภายในปั๊มพีที สาขาโนนสูง 3

พบรถกระบะ หมายทะเบียน ยก-11xx ชลบุรี มีนายนัฐพงศ์ หรือนัฐ อดีตนักแข่งรถสนามภูมิภาค เป็นผู้ขับขี่ และมีเด็กอายุ 12 ปี ซึ่งพ่อและแม่เลี้ยงที่หลบหนีการจับกุมขณะนี้ถูกออกมายจับ บังคับให้โดยสารมาด้วยเพื่อป้องกันการตรวจค้นของตำรวจ

ซึ่งผลการตรวจค้นพบยาบ้าถูกบรรทุกอยู่ท้ายรถและห้องโดยสาร รวม 12,000,000 ล้านเม็ด ส่วนรถสำรวจเส้นทาง หมายเลขทะเบียน 8กด-38xx กทม.มี น.ส.สุรีวรรณ หรือกิ๊ฟ และ รถปิดท้ายขบวน หมายเลขทะเบียน กร 5xx ฉะเชิงเทรา มีนายเทวินทร์ หรือเอ็ม ขับขี่ ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด

คดีที่ 5 จากการสืบสวนของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา พบเครือข่ายยาเสพติดชาวเขาเผ่าลาหู่ เครือข่ายของ นายจะสอ และนายจะติ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่าย และเตรียมวางแผนการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก

กระทั่งกลางดึกของวันเดียวกันพบรถกระบะต้องสงสัยขับออกจากบ้านผาใต้ ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่ มุ่งหน้าไปทางพื้นที่แนวชายแดน และพบรถยนต์ 3 คัน ขับกลับมาที่บ้านผาใต้ อีกครั้งในลักษณะขับตามกันมา ซึ่งตำรวจสังเกตพบรถหนึ่งในนั้น บริเวณกระบะท้ายมีสิ่งของบรรทุกอยู่เต็ม ท้ายกระบะและมีผ้าใบพลาสติกสีดำคลุมปิดไว้

จากนั้นขับมุ่งหน้าพื้นที่บ้านแม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตำรวจที่ติดตามจึงสกัดรถไว้ แต่ผู้ขับขี่รถกระบะทั้ง 2 คัน อาศัยความชำนาญพื้นที่ขับรถหลบหนีไปได้ ก่อนจะมาพบรถกระบะ หมายเลข ทะเบียน บท 37xx เชียงราย ถูกจอดทิ้งไว้ที่บริเวณกลางทุ่งนา บ้านกลางทุ่ง ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

ส่วนรถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผท 29xx เชียงราย (สวมทะเบียน) ผู้ขับขี่อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทาง บริเวณริมถนนสาธารณะภายในหมู่บ้านใกล้ฌาปนสถาน บ้านริมกก ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ผลการตรวจค้นรถพบยาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด

คดีที่ 6 วันที่ 24 ธ.ค.2566 ขณะที่ ตำรวจ ปส.4 ประจำด่านตรวจยานพาหนะชุมพร สนธิกำลังตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กระทั่งพบรถกระบะสี่ประตู หมายเลขทะเบียน 3ขผ XXXX กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัยจึงเรียกเข้าด่านตรวจเพื่อตรวจสอบ พบนางปราณี เป็นผู้ขับขี่ และมีนางสาวดวงกมล โดยสารมาด้วย

ตรวจค้นรถเบื้องต้นพบยาบ้า ในลักษณะเป็นก้อนสีขาวถูกซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ ของรถ รวมจำนวน 500,000 เม็ด นอกจากนี้ ตรวจสอบข้อมูลนางปราณีพบเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ด้วย

คดีที่ 7 จากการสืบสวนข้อมูลนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ ปส.4 ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 พบว่าเครือข่ายค้ายาเสพติด มีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดจากนอกพื้นที่นำส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และพบความเคลื่อนไหวซึ่งเชื่อว่ากำลังเดินทางไปรับยาบ้าเพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้า กระทั่งวันที่ 18 ธ.ค.66 ลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถกระบะ หมายเลขทะเบียน บษ XXXX ราชบุรี มุ่งหน้า จ.สงขลา ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติด อ.จะนะ จึงเฝ้าระวังรถเป้าหมาย

กระทั่งพบรถขับเข้าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นพบนายมาหามะรอยาลี เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.ฮัสเมาะ นั่งข้างคนขับ จากการสอบถามทั้งคู่ยอมรับว่า ในรถมียาบ้าซุกซ่อนอยู่จริงและยินดีให้เจ้าหน้าที่นำรถไปเข้าเครื่องเอกซเรย์ ผลตรวจพบยาบ้า ซุกซ่อนอยู่ในแกลลอนและในช่องลับที่ดัดแปลงเป็นตู้ลำโพง รวมยาบ้าจำนวน 594,000 เม็ด

คดีที่ 8 วันที่ 7 ม.ค.67 ตำรวจ บก.ปส.4 ได้รับการประสานจาก ตำรวจ บก.ปส.3 ว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางนำส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 73 XXXX นครปฐม และกำลังผ่าน จ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้า จ.สงขลา

กระทั่งรถเป้าหมาย ขับมาถึงแยกควนมีด มุ่งหน้า อ.จะนะ จว.สงขลา ตำรวจจึงตั้งด่านเพื่อตรวจค้น พบนายมุสตอปา เป็นผู้ขับขี่ และนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์พบไอซ์บรรจุในพลาสติกใสประทับอักษร VERY GOOD จำนวน 40 กระสอบ รวม 1,000 กิโลกรัม ซุกซ่อน อำพรางทับด้วยกระสอบอาหารปลา สอบปากคำนายมุสตอปา สารภาพว่า ไอซ์ของกลางจะนำไปส่งให้ผู้ค้าในพื้นที่ อ.ตากใบ จว.นราธิวาส

สำหรับเดือนมกราคม 2567 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ จำนวน 15 คดี ผู้ต้องหา 31 คน ของกลาง ยาบ้า 24,959,815 เม็ด, ไอซ์ 1,001 กก., เฮโรอีน 39.43 กก., โคเคน 3.655 กก., คีตามีน 0.098 กก., ยึดทรัพย์ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 112.17 ล้านบาท และขยายผลดำเนินคดีเครือข่ายยาเสพติดในข้อหาสมคบสนับสนุน จำนวน 18 คดี

 

ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์

.......

ศาลาอรุณนราภิรมย์ ศูนยฺ์ร่วมบุญสั่งจองบูชา เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

เนื้อทองแดงหน้าเงินลงยา ขนาด 3.5 เซนติเมตร เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี รายได้สมทบกองทุนการศึกษาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

สุดยอดมวลสารในพระผงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี เนื้อผงพุทธคุณ 108 ชนิดฝังตะกรุดทองคำ 1 คู่ และแบบฝังตะกรุดเงิน 1 คู่(คลิ๊ก)

ชุดกรรมการ จัดรวม 100 ชุด (หมายเลขเดียวกัน) เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

เหตุผลหลักสำคัญในการในการจัดสร้างวัตถุมงคลพญายักษ์วัดแจ้ง รุ่นมหาบารมี เพื่อร่วมบุญสมทบทุนโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์ถนนโบราณและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคภายในวัดอรุณราชวราราม (คลิ๊ก)

ผงพุทธคุณมหาบารมี เศรษฐีพันล้าน สุดยอดมวลสารแห่งยุคที่บรรจุใต้ฐาน รูปหล่อพญายักษ์วัดแจ้ง รุ่นมหาบารมี ขนาด 4 นิ้ว และขนาด 1.5 นิ้ว เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวะแก่เงิน (คลิ๊ก)

ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)

บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี เนื้อทองแดงลงยา ลายธงชาติ ช่วยชีวิตหนุ่มใหญ่ให้รอดตายจากเหตุรถพลิกคว่ำหลายตลบพุ่งชนเสาบอกทาง (คลิ๊ก)

บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)