ข่าวรวบยกแก๊งอินโด ล้วงกระเป๋าหนุ่มญี่ปุ่น กลางห้างดัง แฉกลโกง ใช้เวลาไม่กี่นาที - kachon.com

วันที่ 26 ม.ค.67 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์, พ.ต.ท.อัครพล ธนธรรม รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ สั่งการให้ พ.ต.ต.มานะ มะเซิง, สว.สส.สน.ทองหล่อ และชุดสืบสวนสน.ทองหล่อ สน.ทองหล่อ ร่วมกันจับกุมตัว นายจายา อะบีดี้ อายุ 61 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย นายอิซานดี อายุ 58 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย นายสุเฮนดรา อายุ 41 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย นายไอวาน ซูซานโต อายุ 50 ปี สัญชาติอินโดนีเซีย

ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์” จับกุมได้ที่หน้าล๊อบบี้ใต้โรงแรมแห่งหนึ่งใน ซ.รามคำแหง 81/4 หัวหมาก บางกะปิ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.เวลาประมาณ 08.00 น.ที่ผ่านมา

พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าสะพายหลัง สีดำ จำนวน 1 ใบ รองเท้าผ้าใบสีเทา จำนวน 1 คู่ เสื้อโปโลแขนจั๊มสีดำ จำนวน 1 ตัว กระเป๋าสะพายหลังสีเขียว จำนวน 1 ใบ เสื้อกีฬาคอปกสีครีม จำนวน 1 ตัว รองเท้าผ้าใบสีดำคาดขาว ยี่ห้อ โอนิซึกะ จำนวน 1 คู่ หมวกแก๊ปสีขาว ยี่ห้อ LEVIS จำนวน 1 ใบ

เสื้อโปโลสีดำ คอปกยี่ห้อ POLICE จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว จำนวน 1 ตัว รองเท้าผ้าใบ จำนวน 1 คู่ กระเป๋าสะพายหลังสีดำ จำนวน 1 ใบ เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว จำนวน 1 ตัวกางเกงขายาวสีดำ จำนวน 1 ตัว กระเป๋าสะพายหลังสีดำ จำนวน 1 ใบ รองเท้าคัตชูสีดำ จำนวน 1 คู่

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ม.ค.67 นายโยชิมูเนะ โยชิดะ สัญชาติญี่ปุ่น ผู้เสียหาย มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค.67 เวลาประมาณ14.48 น. ผู้เสียหายไปแลกเปลี่ยนเงินตรา ชนิด USD จำนวน 8,700 ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าเงินไทยประมาณ 310,000 บาท ที่ร้านใน ห้างสรรพสินค้าย่านสุขุมวิท แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายด้านหลัง แล้วเดินเลือกซื้อของอยู่ประมาณ 10 นาที ต่อมาได้เปิดกระเป๋าดู ปรากฏว่าเงินดังกล่าวได้หายไป เชื่อว่ามีคนร้ายลักเอาไป ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าร้านแลกเงิน ชั้น G และบริเวณทางเดินภายในห้างที่ผู้เสียหายเดินเลือกซื้อสินค้า ปรากฏว่าขณะผู้เสียหายเข้าแลกเงิน มีผู้ต้องหาที่ 1 นั่งสังเกตอยู่หน้าร้านแลกเงิน เมื่อผู้เสียหายเดินออกจากร้านแลกเงิน ผู้ต้องหาที่ 1 เดินตาม แล้วใช้โทรศัพท์ขึ้นโทรระหว่างเดินตามผู้เสียหาย

จนกระทั่งไปถึง ชั้น 1 พบว่ามีผู้ต้องหา 3 คน มาปรากฏพร้อมกับนายจายา อะบีดี้ แล้วเดินตามผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหยุดเลือกดูสินค้า ช่วงเวลานั้นนายอิซานดีใช้มือล้วงกระเป๋าสะพายผู้เสียหาย ขณะสะพายอยู่ด้านหลัง แล้วหยิบซองเงินออกจากกระเป๋าของผู้เสียหาย ก่อนทั้งผู้ถูกจับทั้ง 4 คน จะเดินแยกจากผู้เสียหาย แล้วมาขึ้นรถเท็กซี่สีชมพูบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องตามเส้นทางพบว่า กลุ่มผู้ถูกจับนั่งรถเท็กซี่มาลงที่ ปากซอยเอกมัย ก่อนที่จะไปขึ้นรถเท็กซี่ สีเขียวเหลือง มุ่งหน้าพระราม 9 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พบว่ากลุ่มผู้ถูกจับนั่งรถแท็กซี่ไปลงหน้าโรงแรมใน ซอยรามคำแหง 81/4 สถานที่จับกุม จึงไปตรวจสอบที่โรงแรมดังกล่าว

จากการสอบถามพนักงาน ทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นชาวอินโดนีเซีย และเปิดห้องพักเป็นรายวัน จำนวน 3 ห้อง และในเวลาประมาณ 08.00 น.ของวันที่ 15 ม.ค.67 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบข้อมูลบุคคลผู้ก่อเหตุอยู่นั้น มีบุคคลซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ เดินมาชำระค่าห้องที่ประชาสัมพันธ์ของโรงแรม เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและตรวจสอบทราบว่า พบว่าทั้งหมดเป็นชาวอินโดนีเชียเข้ามาพักที่โรงแรมเป็นรายวัน และจากการตรวจสอบตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงตรวจค้น

จากการการตรวจค้นพบ ของกลางที่ผู้ถูกจับตรงกับของกลางที่ใช้ในวันก่อเหตุ และจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะผู้ถูกจับเดินตามผู้เสียหายแล้วลงมือก่อเหตุ และขณะขึ้นรถแท็กซี่ ผู้ถูกจับรับว่าเป็นกลุ่มผู้ถูกจับจริง

จากพยานหลักฐานเชื่อว่าผู้ถูกจับกระทำความผิดจริงประกอบกับผู้ถูกจับเป็นชาวต่างชาติ มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งในประเทศไทย อันเป็นเหตุให้ออกหมายจับได้ แต่ไม่อาจขอหมายได้ทัน ตาม ป.วิอาญา มาตรา 78(3) จับกุมข้อหาร่วมกันลักทรัพย์” เบื้องต้นให้การ “รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา”

จากการสอบสวนให้การว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางมาจากอินโดนีเซียมาก่อเหตุล้วงกระเป๋า โดยเลือกผู้เสียหายที่นำเงินใส่ในกระเป๋าสะพายไว้ด้านหลัง เมื่อก่อเหตุเสร็จก็จะแบ่งเงินกัน หลังจากนั้นผู้ถูกจับก็จะโอนเงินไปให้กับครอบครัวที่ประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป