ข่าวคนร้ายสุดโหด อาวุธสงครามรัวถล่มพ่อค้าไม้ยางดับกลางป่า ปลอกกระสุนเกลื่อนข้างทาง - kachon.com

วันที่ 14 ธ.ค.66 พ.ต.อ.จรัส เส็มสัน ผกก.สภ.มะนัง จ.สตูล พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.มะนัง, ชุดสืบสวน ภ.จว.สตูล, ชุดสืบสวน ภาค 9, ตำรวจ กก.6 บก.ป., นปพ.สตูล และชุดพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถแทรกเตอร์ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามมีคนเสียชีวิต ในสวนยางพารา บนเนินเขาในพื้นที่ อ.มะนัง จ.สตูล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.66 เวลา18.30 น.

เบื้องต้นพบคราบเลือดติดอยู่บริเวณที่นั่งคนขับ ถุงใส่อาหาร ส่วนบนหลังคาและด้านข้างรถมีรอยกระสุนปืนทั่วทั้งคัน ขณะที่บริเวณพงหญ้าข้างทางพบกระสุนปืนขนาด 7.62 ซึ่งใช้กับปืนอาก้า และปืนเอ็ม16 รวมทั้งกระสุนปืนขนาด 9 มม. รวมทั้งหมด 28 นัด

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายวิโรจน์ หมาดหมาน อายุ 38 ปี ชาวบ้าน ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล มีอาชีพรับซื้อไม้ยาง ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ไปทำงานตัดไม้ยางและบรรทุกไม้ยางออกจากพื้นที่ และเนื่องจากในพื้นที่มีสภาพเป็นเนินควนรถบรรทุกไม่สามารถขับขึ้นมาได้ รถแทรกเตอร์ของผู้เสียชีวิตจึงต้องไปช่วยดันรถคันดังกล่าว ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน แอบซุ่มอยู่ข้างทาง ก่อนใช้อาวุธปืนสงครามระดมยิงใส่ผู้เสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป

ส่วนปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอกที่พบนั้น คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตที่ยิงต่อสู้กับคนร้าย สำหรับสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจจะมาจากเรื่องโกรธแค้นส่วนตัว

จากการสอบสวน นายสุธาวุฒิ หมาดหมาน น้องชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่ชายตระเวนรับซื้อไม้ยางในพื้นที่ อ.มะนัง หลังจากทราบว่าพี่ชายถูกยิง ตนก็เข้ามาในพื้นที่ประมาณ 1 ทุ่ม แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ตนไม่ทราบว่าพี่ชายไปมีปัญหาอะไรกับใครบ้าง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งปกติพี่ชายก็จะเข้ามาดันรถทุกวัน เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นเนินเขาและทางลูกรัง จึงต้องใช้รถไถคอยดันตลอด กระทั่งถูกซุ่มยิงเสียชีวิต

ขณะที่ นายอ๊อด คนงานที่ขับรถบรรทุกไม้ เล่าว่า ตนกับผู้เสียชีวิตมารับซื้อไม้ยางในพื้นที่ โดยตัดและบรรทุกไม้ออกจากพื้นที่วันละ 3 รอบ ทำมาประมาณ 10 กว่าเที่ยว และเหลือไม้อยู่กว่า 20 ต้น โดยวันเกิดเหตุตนขับรถกระบะและผู้เสียชีวิตขับรถไถดันท้ายรถกระบะขึ้นเนิน เนื่องจากถนนลื่น เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถของตนก็เคลื่อนลงได้ เพราะเป็นจุดลงจากเนินควน ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงปืนรัวยิงจำไม่ได้ว่ากี่นัด แต่เสียงดังนานมาก ตนจึงลงจากรถแล้วมานั่งข้างประตู เมื่อเสียงปืนสงบจึงเดินออกมาหาสัญญานโทรศัพท์เพื่อแจ้งญาติผู้เสียชีวิต เหตุการเกิดขึ้นเร็วมากและมันมืดจึงมองไม่เห็นว่าคนร้ายมีกี่คนและมาจากทางไหน