ข่าวศาลอุทธรณ์ยืน "คุกชั่วชีวิต" ผอ.โหดฆ่า "น้องหลิว" หมกศพป่าอ้อยสาบสูญ 8 ปี - kachon.com

เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดสระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่พนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว เป็นโจทก์ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับนายจุมพล หรือ ผอ.ตุ๊ อดีต ผอ.โรงเรียนที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เป็นจำเลยในคดีฆาตกรรม น้องหลิว อายุ 18 ปี

ภายหลังผู้ตายจบ ม.6 ไปทำงานเป็นพนักงานโรงงานที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี แล้วหายตัวไปไร้ร่องรอยตั้งแต่เดือน พ.ค.2555 กระทั่งญาติร้องขอความช่วยเหลือไปที่มูลนิธิกระจกเงา และพยายามติดตามข้อมูลจากศพไร้ญาติ จนภายหลังพบว่าถูกฆาตกรรมและนำศพมาทิ้งอำพรางคดีไว้กลางป่าอ้อยที่ ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว หลังเวลาผ่านไปถึง 8 ปี

จากนั้นตำรวจรื้อฟื้นคดีและจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ จ.สุพรรณบุรี สาเหตุมาจากความหึงหวง และนำตัวส่งฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 288 จำคุกตลอดชีวิต ริบของกลาง ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 1,788,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา ร้อยละ3 ต่อปี นับตั้งแต่ 13 พ.ค. 2555 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ร่วม ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

จำเลยอุทธรณ์ ปัญหาที่ต้องวินิจัยต่อไปมีว่า ค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นกำหนดเหมาะสมหรือไม่ จำเลยอุทธรณ์ว่า ค่าปลงศพและค่าอุปการะเลี้ยงดูสูงมากเกินไป เห็นว่า แม้ค่าปลงศพโจทก์ร่วมจะไม่มีหลักฐานมาแสดงตามที่จำเลยอุทธรณ์ก็ตาม แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ตายถึงแก่ความตาย โจทก์ร่วมผู้เป็นมารดาย่อมต้องจัดงานศพตามประเพณี ศาลชั้นต้นได้กำหนดเงินส่วนนี้

โดยพิจารณาจากค่าใช้จ่ายในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันโดยกำหนดให้เป็นเงิน 60,000 บาทนั้นเหมาะสมแล้ว ส่วนค่าอุปการะเลี้ยงดู ศาลชั้นต้นได้คำนวณโดยพิจารณาจากอายุของโจทก์ร่วมจำนวนเงินในแต่ละเดือนและระยะเวลาที่คาดว่าโจทก์ร่วมจะได้รับการอุปการะจากผู้ตาย นับว่าเหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุให้ศาลอุทธรณ์ ภาค2 จะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขอุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน