ข่าวบิ๊กโจ๊ก เผยวงจรปิดจับภาพนาทียิง-วงแตก พบหลักฐานทั้งตร. พลเรือน พกปืนเพียบ - kachon.com

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 14 ก.ย.2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เดินทางมาประชุมและติดตามความคืบหน้าคดี ที่บช.ภ.7 เมื่อมาถึงได้ขึ้นไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่กู้ได้จากเซิร์ฟเวอร์ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นได้ลงมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในบ้านกำนันนกมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 15 ตัว กู้เซิร์ฟเวอร์ได้มา 13 ตัว สมบูรณ์ 100% เห็นภาพและได้ยินเสียงชัดเจน ว่าใครทำหน้าที่อะไรก่อนและหลังเกิดเหตุ ใครโกหกว่า ช่วยเหลือคนเจ็บ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ช่วย ส่วนกล้องวงจรปิดที่เหลืออีก 2 ตัว กำลังเร่งดำเนินการ คาดว่าวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ช่วงบ่ายจะได้ภาพครบทั้งหมด แต่ไม่สามารถลงรายละเอียดพฤติการณ์ได้ว่าคนไหนทำอะไรอยู่ เพราะเกี่ยวกับเรื่องคดีและเป็นข้อมูลในสำนวนการสอบสวน

ส่วนขณะนี้สรุปภาพรวมได้ว่าจากคำให้การทั้งหมด ทุกคนให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง วันนี้จะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงการให้การเท็จต่าง ๆ รวมถึงคดีอาญา ส่วนใครจะมีความผิดอย่างไรคืนนี้จะประชุมคณะทำงานและค่อย ๆ ไล่เรียงไป ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ต้องมาไล่เรียงอีกครั้ง

ส่วนภาพที่ออกมาเห็นได้ชัดเจนว่าคนเจ็บอยู่ในลักษณะอย่างไรบ้าง การก่อเหตุเป็นอย่างไร ซึ่งเห็นภาพชัดเจนทั้งหมด สอดรับกับแนวทางการสืบสวน และเรื่องอาวุธปืนมีทั้งตำรวจและคนนอก ซึ่งมีจำนวนมาก เป็นรายละเอียดที่ปรากฏตามภาพแต่ไม่สามารถลงรายละเอียดมากกว่านี้ได้

ในวันเกิดเหตุจากหลักฐานพบว่าทั้งตำรวจและพลเรือนเกือบทุกคนพกปืนจำนวนมาก ซึ่งต่างคนต่างหนีหลังปืนนัดแรกดังขึ้น ไม่มีใครพยายามที่จะระงับเหตุ ซึ่งทุกคนเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล 2.กลุ่มที่หลบหนี และ 3. กลุ่มที่ช่วยควบคุมพื้นที่หลังเกิดเหตุ ส่วนจะมีการแจ้งดำเนินคดีกับตำรวจเพิ่มเติมหรือไม่ต้องดูรูปคดี

ส่วนมือยิง ยืนยัน ว่าเป็นนายหน่องที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญไป แต่คนสั่งนายหน่องจะเป็นกำนันนกหรือไม่ ต้องรอดูกล้องวงจรปิดอีก 2 ตัวที่เหลือ สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่นำไปกู้มี 2 ตัว อีก 1 ตัวกำลังดำเนินการ ยอมรับจุดที่มีปัญหาคือสระว่ายน้ำที่มีการกินเลี้ยงกัน ซึ่งเป็นจุดสำคัญ แต่ไม่กังวลว่าจะกระทบกับเรื่องคดีเพราะมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนมากอยู่แล้ว จากคำให้การของพยานบุคคลและจากนิติวิทยาศาสตร์

“ ตอนนี้เรื่องสำคัญคือการตรวจเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดว่าเงินที่เข้ามานั้นถูกต้องหรือไม่ การประมูลโครงการทั้งหมด 1,500 โครงการ เป็นการประมูลที่ถูกต้องหรือไม่ มีการเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งวันนี้ทุกส่วนตั้งทีมร่วมกัน แบ่งหน้าที่กันว่าใครทำอะไร ตรวจสอบเรื่องไหน

แต่เรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ส่วนนี้ ป.ป.ง.จะเป็นคนดำเนินการ ถ้ามีความผิดก็ต้องนำไปสู่ความผิดฐานฟอกเงินและยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องทำตามมา และส่วนที่ 2 ต้องไล่เรื่องส่วยสติกเกอร์ว่ามีการประกอบกิจการน้ำหนักเกินหรือไม่ “

ส่วนพยานหนึ่งคนสำคัญ ที่ถูกเรียกมาสอบปากคำในวันนี้ เป็น ร.ป.ภ.บ้านของกำนันนก ในวันเกิดเหตุวงจรปิดจับภาพได้ว่าหลังสิ้นเสียงปืนของนายหน่อง ร.ป.ภ.นายนี้ ได้หยิบปืนขึ้นมาทันทีก่อนควบคุมกันพื้นที่ทางเข้าออก พยายามทำหน้าที่ปกป้องเจ้านายตัวเอง ส่วนปืนที่พกตรวจสอบซื้อมาจากญาติที่เป็นตำรวจ พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และจะค้านประกันตัว ร.ป.ภ.คนดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ยังพบว่าในที่เกิดเหตุมีคนร่วมงานมากกว่า 56 คน ซึ่งต้องไปสอบปากคำทั้งหมดอีกครั้ง และที่มีรายงานว่ามีตำรวจยศรองสารวัตรปราบปรามใน จ.นครปฐม ขับรถนำกำนันนกในวันเกิดเหตุได้แจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ซึ่งหลังจากนี้ จะมีตรวจค้นเป้าหมายเพิ่มเติมหรือไม่ อาจจะมีแต่ยังบอกพิกัดไม่ได้

ส่วนรองผู้กำกับวศิล ตอนนี้อาการปลอดภัย พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปแล้ว แต่ถ้าหากให้การไม่ตรงข้อเท็จจริงก็อาจจะมีความผิดด้วย ยืนยันการเรียกตำรวจที่อยู่ในงานทั้ง 17 ขณะถูกคุมตัวสอบปากคำอยู่ หลังจากนี้ชุดคลี่คลายคดีจะประชุมสรุปข้อเท็จจริงอีกครั้ง หากพบตำรวจนายใดกระทำความผิดก็จะถูกออกหมายจับ แต่ถ้าอยู่ใน 17 คนที่เรียกมาสอบปากคำก็จะแจ้งข้อหานำตัวส่งศาลได้เลย ส่วนสารวัตรแบงก์ จากภาพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่นัดแรกที่นายหน่องยิง

ทั้งนี้ ที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจยศใหญ่ ได้ลุกขึ้นหนีพร้อมกับหญิงสาวนั้น ไม่ขอระบุว่าเป็นใคร แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ตามภาพจากกล้องวงจรปิด