ข่าวครอบครัว-เพื่อน ร่ำไห้ เผา 'สารวัตรแบงก์' เผยประโยคสุดท้ายสิ้นลม จ่อออกหมายจับเพิ่ม - kachon.com

ครอบครัว-เพื่อน ร่ำไห้ เผา 'สารวัตรแบงก์' เผยประโยคสุดท้ายสิ้นลม จ่อออกหมายจับเพิ่ม
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ครอบครัวและญาติๆ จัดพิธีแสดงพระธรรมเทศนา เพื่ออุทิศกุศลให้แก่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ผู้ล่วงลับ

จากนั้นเวลา 10.30 น. มีพิธีสวดเพระพุทธมนต์ มาติกา-บังสุกุล และเวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล โดยมีญาติสนิท เพื่อนๆข้าราชการตำรวจ เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า

ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. เดินทางมาร่วมพิธี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี ส่วน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ติดภารกิจในต่างประเทศ โดยสั่งการให้ติดตามสถานการณ์ตลอด โดยมีคำสั่งเด็ดขาดว่า ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะมากน้อย ทุกคนต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ตรวจสอบอย่างเข้มข้นทุกมิติ หากพฤติกรรมไม่เหมาะสมจะโยกย้ายก็เป็นอีกเรื่อง เน้นต้องให้ความเป็นธรรมแก่สารวัตรศิวกร

และวันนี้น่าจะออกหมายจับเพิ่มเติมอีก ในส่วนคดีของตำรวจได้แยกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก ตำรวจที่พาคนเจ็บไป รพ. ส่วนที่สอง ให้การช่วยเหลือผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะรูปแบบใด และส่วนที่สาม เมื่อเกิดเหตุแยกย้ายหนีเอาตัวรอด ส่วนเรื่องการรวมคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. จะดำเนินการส่งในส่วนคดี กระทำผิด ป.อาญา ม.157 ให้ ป.ป.ช. ส่วน ป.ป.ช.จะทำเอง หรือส่งให้ปปป. ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“ส่วนกรณีเพจเครือข่ายของกำนันนก โพสต์สร้างสถานการณ์จะชิงตัวกำนันนก ตอนนี้ร่วมกับ บก.ปอท. ทำงานร่วมกันหมด ขอตรวจสอบอย่างละเอียด ถ้ามีใครทะลึ่งเดี๋ยวว่ากัน ผมไม่ทราบว่าประสงค์จะสร้างยอดวิว สร้างกระแสอะไร จากนี้ ป.ป.ช. ป.ป.ท. ป.ป.ง. ปปป. และสรรพากร จะทำงานร่วมกันหมด” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า การที่ตำรวจไม่ได้คิดถึงศักดิ์ศรีความเป็นตำรวจ ไปยอมเป็นลูกน้องให้กำนัน คนร้ายยิงตำรวจต่อหน้าตำรวจ มันเป็นเรื่องไม่ปกติที่เขากล้าทำ วันนี้ตนสั่งการตำรวจทุกคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ เราต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นตำรวจ เพราะหลายคนที่เกษียณไปแล้ว รับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้ คุณต้องทบทวนบทบาทของตัวเอง เรามีหน้าที่รับใช้ประชาชน กลุ่มตำรวจที่ไปเป็นลูกน้องกำนันมันเป็นเลือดเสียไปแล้ว ต้องเอาออกให้หมด

“ก่อนเกิดเหตุมีประเด็นขอคุยเรื่องรถบรรทุกของกำนันนก บรรทุกน้ำหนักเกิน มีการขอคุย ขอเคลียร์ แต่สารวัตรศิวกรไม่ยินยอม มาวันเกิดเหตุมาขอย้ายตำแหน่งสารวัตรศิวกร ก็ไม่ยินยอมอีก ก่อนจะมาชวนดวลเหล้าออนเดอะร็อก ก็กินสู้สารวัตรศิวกรไม่ได้อีก ทำให้ทนเสียหน้า ไม่ได้ก็เลยเกิดเหตุ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. กล่าวว่า สารวัตรศิวกรทำหน้าที่ของตำรวจจนวาระสุดท้าย ในฐานะที่เป็นหัวหน้าหน่วย ท่าน ผบช.ก.เป็นคนสั่งให้สารวัตรศิวกรมาดำรงตำแหน่งที่นี่ ต่างรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ ตนอยู่กับสารวัตรศิวกรจนถึงวินาทีสุดท้าย ตนได้เข้าไปลูบหัวบอกสารวัตรศิวกรว่า พี่ๆ น้อง ๆ จะทวงความเป็นธรรมให้ ตอนนี้ได้แล้วส่วนหนึ่ง แต่หนังเรื่องนี้มันยังไม่จบ ต้องว่ากันต่อ

ต่อมาเวลา 11.50 น. เจ้าหน้าที่เคลื่อนศพ พ.ต.ต.ศิวกร ออกจากศาลา 11 เดินเวียนรอบเมรุ 1 ท่ามกลางครอบครัวและญาติมิตร เพื่อนข้าราชการตำรวจ ทหาร มาร่วมอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย โดย ร.อ.ท.สินนา สายบัว (พ่อ) เดินถือกระถางธูปนำและนางทัศนัย สายบัว (แม่) ถือพานเครื่องแบบตำรวจสีขาวและกระบี่ และเพื่อนตำรวจร่วมกันนำร่างของบุตรชายไปยังเมรุ 1

จากนั้น เวลา 12.40 น. ไฟหลวงพระราชทานมาถึง จากนั้นมีพิธีทอดผ้าบังสุกุล โดยครอบครัวสายบัว, พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.บก.ทล., ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ติดราชการในต่างประเทศ (ไปราชการสำคัญของ FBI ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา) มอบหมายให้ คุณรงรอง ภูริเดช ภรรยา ซึ่งเป็นประธานชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง เป็นตัวแทนทอดผ้าบังสุกุล

โดยพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงครั้งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของกลุ่มคนที่รับทราบข่าวมีข้าราชการตำรวจ ประชาชนทั่วไปและผู้ที่เป็นญาติสนิทของครอบครัวสายบัว เข้าร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพจำนวนมาก

ต่อมาเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน สมเด็จพระสังฆราชฯ นำผ้าไตร และช่อดอกไม้จัน 1 ช่อ ที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานให้กับครอบครัวสายบัว จำนวน 3 ไตร โดยครอบครัวสายบัวตั้งแถวรับ

จากนั้นเพื่อนนรต.รุ่น 67 ร่วมกันร้องเพลง “สนสามพราน” เพื่อรำลึกถึง พ.ต.ต.ศิวกร ท่ามกลางความโศกเศร้า เพื่อนบางคนถึงกับร้องไห้หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความอาลัย ซึ่งขณะร้องเพลงมีสายฝนตกลงมาปรอย ๆ

ประวัติของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว อายุ 32 ปี เกิดเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2534 ที่จังหวัดนครพนม เป็นลูกของ ร.ท.ศิลนา สายบัว และนางทัศนัย สายบัว มีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 1 คน ได้แก่ ทันตแพทย์หญิง อภิชญา สายบัว และมีพี่น้องที่ร่วมเติบโต 2 คน ได้แก่ คุณพิมพ์นารา ศุภจรัสพัฒน์ และคุณภัชฎา อินธิโส พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ได้สมรสกับ น.ส.เขมินทรา จิรสัจจานุกุล มีบุตรธิดา 1 คน

ประวัติการศึกษา พ.ต.ต.ศิวกร จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 1- 3 จาก รร.ฤทธิยะวรรณาลัย จากนั้นได้เข้ารับการศึกษาที่ รร.เตรียมทหาร รุ่นที่ 51 และสำเร็จการศึกษาจาก รร.นรต. รุ่นที่ 67

พ.ต.ต.ศิวกรเป็นคนรักครอบครัว อัธยาศัยดี มีอารมณ์ขัน มักจะสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอ เป็นคนตรงไปตรงมา ใส่ใจเพื่อนฝูง จึงเป็นที่รักของเพื่อนๆ นอกจากนี้ ยังเป็นผู้มีสามารถด้านกีฬา มีใจรักในการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ครั้งศึกษาอยู่ใน รร.นรต. เลือกเข้าชมรมฟุตบอลอีกด้วย

ประวัติการทำงานปี พ.ศ.2557 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง พนักงานสอบสวน สน.สามเสน ต่อมาในปี พ.ศ.2559 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองสารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม

จากนั้นในปี พ.ศ. 2562 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ต่อมาในปี พ.ศ.2563 พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ได้รับการแต่งตั้งในระดับที่สูงขึ้น โดยดำรงตำแหน่งสารวัตร กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม และในปี พ.ศ.2566 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต

พ.ต.ต.ศิวกรเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีปฏิภาณไหวพริบ มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่อย่างยิ่ง มีความโอบอ้อมอารี รักพวกพ้อง รักพี่น้อง มีความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบ พ.ต.ต.ศิวกร ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจและสติปัญญา ทำงานเพื่อสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ

การจากไปของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ครอบครัว เพื่อนพี่น้องและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง แม้ในวาระสุดท้ายก่อนสิ้นลม พ.ต.ต.ศิวกร ยังมี ความอดทนและเข้มแข็ง มีใจต่อสู้ที่จะมีชีวิตอยู่

โดยประโยคสุดท้าย พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ได้กล่าวว่า “ผมยังตายไม่ได้ ผมมีลูกน้องที่ต้องดูแล…” จะมีสักกี่คนที่แม้ในนาทีสุดท้ายของชีวิต ยังตระหนักถึงบทบาทของการเป็นนายตำรวจที่ดี การสูญเสียในครั้งนี้จึงนับว่า เป็นการสูญเสียทรัพยากรบุคคลผู้ทรงคุณค่าของประเทศชาติอีกด้วย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์

.......

ศาลาอรุณนราภิรมย์ ศูนยฺ์ร่วมบุญสั่งจองบูชา เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

เนื้อทองแดงหน้าเงินลงยา ขนาด 3.5 เซนติเมตร เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี รายได้สมทบกองทุนการศึกษาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

สุดยอดมวลสารในพระผงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี เนื้อผงพุทธคุณ 108 ชนิดฝังตะกรุดทองคำ 1 คู่ และแบบฝังตะกรุดเงิน 1 คู่(คลิ๊ก)

ชุดกรรมการ จัดรวม 100 ชุด (หมายเลขเดียวกัน) เหรียญพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี วัดอรุณราชวราราม(คลิ๊ก)

เหตุผลหลักสำคัญในการในการจัดสร้างวัตถุมงคลพญายักษ์วัดแจ้ง รุ่นมหาบารมี เพื่อร่วมบุญสมทบทุนโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์ถนนโบราณและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคภายในวัดอรุณราชวราราม (คลิ๊ก)

ผงพุทธคุณมหาบารมี เศรษฐีพันล้าน สุดยอดมวลสารแห่งยุคที่บรรจุใต้ฐาน รูปหล่อพญายักษ์วัดแจ้ง รุ่นมหาบารมี ขนาด 4 นิ้ว และขนาด 1.5 นิ้ว เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวะแก่เงิน (คลิ๊ก)

ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)

บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี เนื้อทองแดงลงยา ลายธงชาติ ช่วยชีวิตหนุ่มใหญ่ให้รอดตายจากเหตุรถพลิกคว่ำหลายตลบพุ่งชนเสาบอกทาง (คลิ๊ก)

บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)