ข่าวหนุ่มอ้างปืนลั่นใส่แฟนสาวดับ ค้นบ้านเจอยาบ้าอื้อ ญาติคนตายลั่นจงใจจ่อยิง - kachon.com

วันที่ 3 ก.ย. 66 พ.ต.อ.เวชบุตร ชมบุญ ผกก. สภ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ รับแจ้งว่ามีหญิงถูกยิงได้รับบาดเจ็บ คากระท่อมนา บ้านส้มกบ ต.สระโพนทอง อ.เกษตรสมบูรณ์ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน และ หน่วยกู้ภัยเกษตรสมบูรณ์ รุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บหญิง 1 ราย ชื่อ น.ส.อริศรา อายุ 20 ปี สภาพสวมเสื้อสีเหลือง กางเกงสีดำ ถูกยิงด้วยปืนไทยไม่ทราบขนาดบริเวณเหนือขมับด้านซ้าย ไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายธวัช แก้วศรี อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียชีวิต ตรวจสอบพบปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก และยาบ้า จำนวน 87 เม็ด จึงนำตัวมาสอบสวน เจ้าตัวให้การว่า ไม่ได้ตั้งใจยิง แต่ทำปืนลั่นขณะที่นำออกมาเช็ด แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ก่อนที่จะแจ้งกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและมาเก็บรอยนิ้วมือแฝงเก็บคราบเขม่าดินปืน

นายสาคร อายุ 59 ปี พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตนได้รับแจ้งว่ามีคนยิงลูกสาวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงรีบไปดูพบเพียงร่างไร้วิญญาณของลูกสาว ซึ่งตนคาดว่าเป็นฝีมือของลูกเขย ซึ่งมาอยู่กับลูกของตนได้ประมาณ 3 เดือน แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ตนไม่รู้เรื่องภายในของ 2 คนนี้ แต่รู้เพียงว่าลูกสาวของตนชอบพอกับชายคนนี้

ตนจึงให้มาเฝ้าไร่นา ก็ได้สอบถามลูกเขยอยู่ว่า ยิงลูกสาวของตนทำไม แต่ลูกเขยอ้างเพียงว่าปืนลั่น ซึ่งตนคิดว่าอาจจะมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนเกิดเหตุสลด อีกทั้งลูกเขยคนนี้งเกี่ยวกับยาเสพติด

ส่วนญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนนั้นไม่รู้หรอกว่า 2 คนนั้นทะเลาะอะไรกัน เพราะพ่อกับแม่ของผู้เสียชีวิตนั้นให้ลูกสาวมาอยู่กับลูกเขยบริเวณกระท่อมนาเพื่อเฝ้าวัว ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นจะทะเลาะอะไรกันนั้นตนก็ไม่รู้ มารู้อีกครั้งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าหลานสาวของตนนั้นเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวสามีไปสอบสวน

เบื้องต้นสามีรายดังกล่าวอ้างว่าทำปืนลั่น แต่ลักษณะที่เห็นนั้นไม่ใช่เป็นการทำปืนลั่น ทำไมถึงขั้นต้องจ่อยิง แต่หลานสาวของตนได้เสียชีวิตแล้วก็ไม่เป็นไร แต่แปลกใจทำไมญาติฝ่ายชายถึงไม่มาดูแลครอบครัวของผู้สูญเสีย อยากให้ญาติหรือครอบครัวของฝ่ายชายมาดูใจฝ่ายหญิงด้วย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมหลักฐาน และแจ้งข้อหานายธวัช 3 ข้อหา 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.มียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย 3.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ก่อนคุมตัวฝากขังต่อไป