ตามรวบ 'อาจารย์โจ สายไหม' ปลอมเป็นคนเร่ร่อน หลอกเด็กสาวมาเก็บผ้า ก่อนลวงข่มขืน
ข่าวประจำวัน
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน เพจสืบนครบาลได้รับการแจ้งขอความช่วยเหลือกรณี เด็กหญิง อายุ13 ปีถูก นายโจ สายไหม อายุ 52 ปี ใช้มีดข่มขู่ เพื่อข่มขืนเหยื่อ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งทีมนักสืบ บช.น. แกะรอยสืบสวน “ผู้ต้องหากระทำชำเราเด็ก” โดยหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ โดยล่าสุด พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายสมบัติ จุใจ หรือ “อาจารย์โจ สายไหม” มาดำเนินคดีตามกฏหมาย
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.66 พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. สั่งการ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.)
นำกำลังสืบสวนจับกุมตัว นายสมบัติ หรือโจ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้อาวุธ, โดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือดูแล เพื่อการอนาจาร และทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ปทุมธานี ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากปัญหาการก่ออาชญากรรมในการก่อเหตุกระทำชำเราเด็ก ซึ่งเป็นคดีที่มีความร้ายแรง และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยภายในชุมชน พล.ต.ต.ธีรเดช จึงวางแนวทางการป้องกันและปราบปราม พร้อมอีกทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของ บก.สส.บช.น. เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
ต่อมาสืบสวนจนทราบว่า มีผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงซึ่งอายุเพียง 13 ปี โดยใช้วิธีการหลอกล่อชักจูงให้มาเก็บเสื้อผ้าภายในบ้านแลกกับเงินจำนวน 100 บาท โดยเมื่อเด็กหลงกลอุบายของผู้ต้องหา และเข้าไปเก็บเสื้อผ้าให้แล้ว ชักมีดมาข่มขู่ เพื่อให้เด็กหญิงยินยอม พร้อมข่มขืนเหยื่อ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค.66 โดยผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.สายไหม
พล.ต.ต.ธีรเดช จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามเพื่อจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวมาให้ได้ แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นบุคคลเร่ร่อน และมีประสบการณ์การถูกจับกุมในคดียาเสพติดฯ จำนวนมาก ทำให้ยากแก่การติดตามจับกุม
และสืบสวนติดตามมาร่วมกว่า 6 เดือน จนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายสมบัติมาทำบัตรประชาชนใหม่ บริเวณพื้นที่ จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนเพิ่มเติมจนพบว่า นายสมบัติหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล เข้าจับกุมนายสมบัติตามหมายจับ โดยจับกุมได้ที่บริเวณศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ปทุมธานี
จากการสอบสวนนายสมบัติ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ขณะก่อเหตุตนอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่สายไหม และหลอกล่อเด็กเข้ามากระทำอนาจารจริง แต่ไม่ได้สอดใส่แต่อย่างใด โดยหลังจากที่ก่อเหตุแล้วหลบหนี ใช้ชีวิตด้วยการเป็นคนเร่ร่อน หาตกปลา และขายพระเครื่องประทังชีวิต
จนกระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตนต้องการที่จะทำบัตรประชาชน แต่ไม่มีเงินพอทำบัตรใหม่ จึงเข้าไปติดต่อที่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี และพักอาศัยอยู่ที่ดังกล่าว”
ส่วนสาเหตุที่เรียกนายสมบัติว่าอาจารย์นั้น มาจากที่นายสมบัติเคยติดคุก และสักยันต์ รวมทั้งเล่นพระเครื่อง จึงมีคนเรียกติดปากว่า อาจารย์โจ
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล จึงนำตัว นายสมบัติส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์
.......
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
ปาฏิหาริย์อีกครั้ง เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ช่วยชีวิตคุณยายวัย 73 ปี ให้รอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ (คลิ๊ก)พระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดอรุณ พระผู้สร้างเหรียญพระเจ้าตากชาววัดอรุณ หนึ่งเดียวในตำนานประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี (คลิ๊ก)
สแกน QR Code เพื่อการเที่ยวชมความจริงของวัดอรุณราชวรารามแบบจำลองความจริงทั้งพระบถ
QR Code เพื่อการสำรวจความงามของวัดอรุณทั้งพระอาราม.
QR 碼以探索黎明寺的美麗。整個修道院。