ข่าวจับแอดมินแดนโสม แย่งอาชีพคนไทย ชวนเกาหลีซื้อแพ็กเกจเที่ยว 'จ่ายวอนครั้งเดียวจบ' - kachon.com

จับแอดมินแดนโสม แย่งอาชีพคนไทย ชวนเกาหลีซื้อแพ็กเกจเที่ยว 'จ่ายวอนครั้งเดียวจบ'
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s

ตามนโยบายของ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิด กฎหมายในประเทศไทย

รวมทั้งให้ดําเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่ พํานักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทําผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชน ทําให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัว อยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทําความผิด

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.66 ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ. อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.ศท.ตม.ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม.,

พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส. สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสําคัญ ดังนี้

1.รวบผู้ร้ายข้ามแดนมีหมายแดง หนีหมายจับคดีค้ายาเสพติด ก่อนบินหนีซุกเวียดนาม สถานเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิส ประจําประเทศไทย มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้ ทางการไทยจับกุมตัวชั่วคราว นายโจนาธาน (นามสมมติ) อายุ 31 ปี สัญชาติสวิส เป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อไปดําเนินคดี ในความผิดฐานค้ายาเสพติดอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทของ สมาพันธรัฐสวิส

โดยมีพฤติการณ์กระทําผิด กล่าวคือในช่วงปลายปี พ.ศ.2559 นายโจนาธาน ลักลอบนํายาบ้า กว่า 2,000 เม็ด ที่ได้ติดต่อซื้อขายจากชาวแอฟริกาผิวสี ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และนําไปขายให้กับลูกค้าหลาย รายในเมืองซูริค โดยสมาพันธรัฐสวิส ได้ออกหมายจับที่ B-18-2612 ลงวันที่ 28 ก.ย.61 ให้จับ นายโจนาธาน ในความผิดฐานค้ายาเสพติดอย่างร้ายแรง และองค์การตํารวจสากล ออกประกาศสีแดง (INTERPOL Red Notice)

ต่อมาพนักงานอัยการ สํานักงานต่างประเทศ สํานักงานอัยการสูงสุด ยื่นคําร้องต่อศาลอาญาขอออกหมายจับ ชั่วคราวนายโจนาธาน และส่งหมายจับมายังสํานักงานตํารวจแห่งชาติเพื่อให้สืบสวนจับกุม

บก.สส.สตม.รับสั่งการให้สืบสวนติดตามจับกุมนายโจนาธาน กก.1 บก.สส.สตม. จึงเข้าไปตรวจสอบ ข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สตม. พบว่านายโจนาธาน ถือหนังสือเดินทางสาธารณรัฐบราซิล เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผ.ผ.90 และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่ สิ้นสุด

จึงขออนุมัติ ผบก.สส.สตม. เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของนายโจนาธาน เนื่องจากเป็นบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศออกหมายจับ พฤติการณ์เข้าลักษณะเป็นคนต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ตามมาตรา 12 (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จากนั้นจึงสืบสวนติดตามหาตัวนายโจนาธาน

จนทราบว่านายโจนาธาน จะเดินทางจากท่าอากาศยานกรุงเทพไปยังประเทศเวียดนาม จึงประสานงานกับ เจ้าหน้าที่ตํารวจด่าน ตม.ทอ.กรุงเทพ บก.ตม.2 ร่วมกันกระจายกําลังสืบสวนหาตัวนายโจนาธาน บริเวณโถง ผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานกรุงเทพ จนกระทั่งพบตัวนายโจนาธาน ขณะเข้าแถวรอการเช็คอิน จึงขอตรวจสอบ หนังสือเดินทาง นายโจนาธาน ได้นําหนังสือเดินทางสาธารณรัฐบราซิล และหนังสือเดินทางสมาพันธรัฐสวิส แสดงแก่ เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุม

เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมจึงแสดงหมายจับของศาลอาญาและแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมแจ้ง หนังสือแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้นายโจนาธานรับทราบ และทําบันทึกการจับกุมนําตัว ส่งพนักงานอัยการ สํานักงานต่างประเทศ สํานักงานอัยการสูงสุด เพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไป

2.บก.สส.สตม. รวบผู้ต้องหาชาวไวกิ้งหนีหมายจับกบดานไทย สตม.ได้รับประสานจาก สํานักงานประสานงานฝ่ายกิจการตํารวจกลุ่มประเทศนอร์ดิค ขอให้ช่วยสืบสวน ติดตามจับกุมตัว นายสเตฟาน (นามสมมติ) อายุ 45 ปี สัญชาติสวีเดน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลประเทศสวีเดนและ หมายจับสหภาพยุโรปในข้อหากระทําความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ และเป็นบุคคลตามประกาศตํารวจสากลสีแดง (Red Notice) ซึ่งหลบหนีคดีจากประเทศสวีเดนและเดินทางเข้ามาพํานักอยู่ในประเทศไทย

ทั้งนี้ ทางการสวีเดน เพิกถอนหนังสือเดินทางของนายสเตฟานแล้ว โดยมีพฤติการณ์กระทําผิด กล่าวคือ ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 60 ถึงวันที่ 5 ต.ค.64 นายสเตฟาน ร่วมกับพวกกระทําการละเมิดสิทธิสัญญาของบริษัทผู้เสียหายจํานวน 3 บริษัท โดยบันทึกรายการโทรทัศน์ของบริษัทผู้เสียหายที่ได้ออกอากาศไปแล้ว ไปออกอากาศเผยแพร่ต่อสาธารณชนในช่องทางอื่นๆ ยู ทูบ เฟซบุ๊ก ซ้ำอีกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทผู้เสียหาย อันเป็นการละเมิดสิทธิของผู้เสียหายในการออกอากาศ ทางโทรทัศน์ สร้างความเสียหายให้กับบริษัทผู้เสียหายจํานวนมาก

สตม. จึงสั่งการให้ บก.สส.สตม. นําข้อมูลของนายสเตฟานไปตรวจสอบในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สตม. พบว่านายสเตฟานเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และการอนุญาตยังไม่สิ้นสุด ผบก.สส.สตม. จึงเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของนายสเตฟาน เนื่องจากทางการสวีเดน เพิกถอนหนังสือเดินทางและเป็นบุคคลที่ เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศ ออกหมายจับ พฤติการณ์เข้าลักษณะเป็นคนต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ตาม มาตรา 12 (1) และ (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

และสั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามหาตวั นายสเตฟาน จากการสืบสวนของ กก.1 บก.สส.สตม. ทราบว่านายสเตฟาน พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบและพบนายสเตฟาน จึงแจ้งหนังสือแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้นายสเตฟาน ได้รับทราบและนําตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไป

3.บก.สส.สตม. รวบแก๊งหนุ่มแดนโสมแย่งอาชีพคนไทย บก.สส.สตม. จับชาวเกาหลี 5 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี เพื่อดําเนินคดี ดังนี้

1.นายคิม (นามสมมติ) อายุ 40 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 66 ได้รับการยกเว้นการ ตรวจลงตราประเภท คนอยู่ชั่วคราว (NON-90) ครบกําหนดอนุญาตวันที่ 23 พ.ค. 66 และได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อใน ราชอาณาจักรถึงวันที่ 23 พ.ค.67

2.นายเบค (นามสมมติ) อายุ 28 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 ได้รับการยกเว้น การตรวจลงตราประเภท ผ.ผ.90 ครบกําหนดอนุญาตวันที่ 30 ก.ค. 66

3.นายชอย (นามสมมติ) อายุ 32 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 24 พ.ค.66 ได้รับการยกเว้น การตรวจลงตราประเภท ผ.ผ.90 ครบกําหนดอนุญาตวันที่ 21 ส.ค. 66

4.นายจุง (นามสมมติ) อายุ 25 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 12 พ.ค.66 ได้รับการยกเว้น การตรวจลงตราประเภท ผ.ผ.90 ครบกําหนดอนุญาตวันที่ 9 ส.ค. 66

5.นายชอน (นามสมมติ) อายุ 39 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 1 พ.ค.66 ได้รับการยกเว้นการ ตรวจลงตราประเภท คนอยู่ชั่วคราว (NON-90) ครบกําหนดอนุญาตวันที่ 29 ก.ค. 66

โดยกล่าวหาผู้ถูกจับที่ 1 ว่า รับคนต่างด้าวซึ่งไม่มีใบอนุญาตทํางานเข้าทํางาน และกล่าวหาผู้ถูกจับที่ 2-5 ว่า เป็นคนต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทํางาน

พฤติการณ์กล่าวคือ บก.สส.สตม. ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน จว.ชลบุรี ว่ามีคนเกาหลีเข้ามาทํางานในบริษัท ทัวร์ บริเวณพูลวิลล่าแห่งหนึ่ง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี ทําหน้าที่เป็นเสมียนรับจองทัวร์ให้กับชาวเกาหลี และ จัดแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบครบวงจรในประเทศไทย โดยจัดที่พักอาศัยและใช้บริการสถานประกอบการในเครือของชาวเกาหลีด้วยกัน ทําให้กระทบกับระบบธุรกิจการท่องเที่ยวของ จว.ชลบุรี

จากการสืบสวนพบว่ามีชาวเกาหลีทํางานอยู่ในบริษัทดังกล่าวตามที่ถูกร้องเรียนจริง จึงขออนุมัติหมายค้นต่อ ศาลจังหวัดพัทยาเพื่อเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบชาวเกาหลีจํานวน 5 ราย ทํางานโดยผิดกฎหมายซึ่งมี นายคิม ทําหน้าที่ หัวหน้าควบคุมดูแลและจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน จํานวน 4 ราย คือ นายเบค, นายชอย, นายจุง และนาย ชอน

ซึ่งทั้ง 4 รายดังกล่าว ทําหน้าที่ ดูแลระบบ (Admin) ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวของเกาหลีเพื่อชักชวนให้คนเกาหลีซื้อ แพ็กเกจท่องเที่ยวแบบครบวงจรในลักษณะ ‘จ่ายเงินวอนครั้งเดียวจบ’ แล้วสามารถมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยไม่ ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีก แพ็กเกจนั้นรวมถึง รถรับ-ส่งสนามบิน, ที่พัก, ร้านอาหาร, ร้านนวด ซึ่งเป็นสถานประกอบการในเครือ ของชาวเกาหลีด้วยกัน สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงแจ้งข้อกล่าวหา และนําตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย

4.จับชาวต่างชาติที่เข้ามากระทําความผิดในประเทศไทยในรูปแบบพนันออนไลน์และปลอมตราประทับเข้า-ออก ผู้ต้องหา 17 รายพร้อมยึดของกลาง เจ้าหน้าที่ สืบสวน กก 2 บก.สส สตม. ได้นําหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นที่ย่าน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ

โดยจากการตรวจค้นพบกลุ่มพนักงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนามมีทั้งชายและหญิง ซึ่งกําลัง ทําหน้าที่เป็นแอดมินของเว็บพนันออนไลน์ ที่มีนายทุนเป็นชาวจีนอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์ จํานวน 12 เครื่อง

นอกจากนั้นยังขยายผลจับกุมกลุ่มคนต่างด้าวในบ้านพักที่อยู่ติดกันอีกสองหลัง ซึ่งจากการตรวจค้นพบต่างด้าวทั้งชายหญิงสัญชาติเวียดนาม และพบของกลาง เป็นอุปกรณ์การทําหนังสือเดินทางปลอม และตรายางขาเข้า/ออก ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ และประเทศพม่าและกัมพูชา รวมไปถึงพบบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีจํานวนหนึ่ง จึงควบคุมผู้ต้องหา ทั้งหมดซึ่งเป็นชาวเวียดนาม พร้อมกับของกลาง ทั้งคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การผลิตหนังสือเดินทางและตรายางปลอม พร้อมของกลางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มาสอบสวนและบันทึกจับกุมที่ สภ.บางพลี

ก่อนจะแจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง คือ บุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม 12 คน ข้อหา “ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ม.12)” บุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม เวียดนาม 4 คน ข้อหา ร่วมกันมีไว้ ซึ่งดวงตราหรือรอยตราประทับของ เจ้าพนักงาน (ตราขาเข้า/ออก ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ)และ ร่วมกันมีไว้ ซึ่งหนังสือเดินทางของผู้อื่น

4.จับบุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม เวียดนาม 1 คน ข้อหา มีบุหรี่ต่างประเทศไว้ในความครอบครองโดยไม่ผ่าน ขั้นตอนการศุลกากร โดยการบุกเข้าจับกุมในนี้ทราบว่ามีกลุ่มบุคคลต่างด้าวลักลอบเช่าบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้เปิดเป็นฐานการตั้งเว็บพนันออนไลน์และการปลอมแปลงเอกสารหนังสือเดินทาง

ซึ่งมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท ฝ่ายสืบสวนจึงเฝ้า สังเกตการณ์จนกระทั่งมีเบาะแสแน่ชัดจึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ และวางแผนนํากําลังไปปิดล้อม ตรวจค้นจนพบผู้ต้องหาและของกลางจํานวนมาก

จากการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ทราบว่า สําหรับกลุ่มผู้ต้องหาชาวเวียดนามกลุ่มนี้ จะมีหน้าที่คอย เป็นผู้ดูแลเว็บพนันออนไลน์ ชื่อเว็บ https://inkbio.me/luiscongviec ซึ่งมีนายทุนเป็นคนจีนคอยสั่งการผ่านทางเฟซบุ๊กอวตาร

จากนั้นนายทุนจะปิดแอ็กเคาต์ทันทีหลังจากที่สั่งการแล้วเสร็จ จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา กลุ่มนี้เพิ่งใช้บ้านพักแห่งนี้เป็นฐานในการดําเนินการทางธุรกิจ ซึ่งย้ายมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และมาเปิดได้เพียง เดือนเศษ ก่อนจะถูกจับกุม

ส่วนหนังสือเดินทางก็เป็นการขยายผลจับกุมต่างด้าวที่ใช้หนังสือเดินทางมีตราประทับปลอม จนขยายผลทราบว่าสถานที่แห่งนี้ลักลอบทําหนังสือเดินทางปลอม โดยใช้ตราประทับผ่อนผันขออยู่ต่อในราชณาจักร หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ไปขยายผลต่อไป

 

ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์

.......

สุดยอดมวลสารในพระผงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี เนื้อผงพุทธคุณ 108 ชนิดฝังตะกรุดทองคำ 1 คู่ และแบบฝังตะกรุดเงิน 1 คู่(คลิ๊ก)

เหตุผลหลักสำคัญในการในการจัดสร้างวัตถุมงคลพญายักษ์วัดแจ้ง รุ่นมหาบารมี เพื่อร่วมบุญสมทบทุนโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์ถนนโบราณและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคภายในวัดอรุณราชวราราม (คลิ๊ก)

ผงพุทธคุณมหาบารมี เศรษฐีพันล้าน สุดยอดมวลสารแห่งยุคที่บรรจุใต้ฐาน รูปหล่อพญายักษ์วัดแจ้ง รุ่นมหาบารมี ขนาด 4 นิ้ว และขนาด 1.5 นิ้ว เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวะแก่เงิน (คลิ๊ก)

ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)

บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี เนื้อทองแดงลงยา ลายธงชาติ ช่วยชีวิตหนุ่มใหญ่ให้รอดตายจากเหตุรถพลิกคว่ำหลายตลบพุ่งชนเสาบอกทาง (คลิ๊ก)

บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)