ข่าวน้ำตกหนานฟ้า แหล่งเที่ยวใหม่ ธรรรมชาติสวยงาม อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านร่วมอนุรักษ์ - kachon.com

4 ก.ค. 66 – ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วยชาวบ้านตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง เดินทางขึ้นไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ บนเทือกเขาบรรทัด ที่มีชื่อ น้ำตกหนานฟ้า..สไลเดอร์

ซึ่งค่อนข้างจะลำบากพอสมควร เพราะหลังจากขับรถเลี้ยวซ้ายเข้าไปที่สี่แยกห้วยว่าว ช่วง กม.ที่ 6 ถนนกะช่อง-หาดเลา เพื่อไปตามถนนลูกรังแคบๆ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จนถึงฝายห้วยว่าวแล้ว ยังจะต้องเดินเท้าผ่านสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และป่าไม้น้อยใหญ่เข้าไปอีก 2 กิโลเมตร

แถมบางจุดยังต้องข้ามลำธาร หรือแอ่งน้ำเล็กๆ โดยใช้เวลาราว 45 นาที หรือพอได้เหงื่อก็จะถึงที่หมาย แต่ก็สุดคุ้มเมื่อได้มีโอกาสสัมผัสกับภาพความงดงามของน้ำตกแห่งนี้

สำหรับน้ำตกดังกล่าวเกิดขึ้นมายาวนานแล้วไม่น้อยกว่า 30 ปี แต่เมื่อก่อนยังมีสภาพที่แคบ และรกรุงรัง กระทั่งเมื่อชาวบ้านค้นพบ และได้เข้ามาพัฒนา เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้ และแหล่งพักผ่อนในหมู่บ้าน น้ำตกจึงมีความสวยงามมากขึ้น และมีผู้คนจากต่างถิ่น แม้กระทั่งชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว

โดยเฉพาะบริเวณชั้นล่างสุดที่มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งมีความลึกถึง 4 เมตรในช่วงหน้าฝน พร้อมทั้งยังมีน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผา ที่มีความกว้างประมาณ 25 เมตร และสูงประมาณ 50 เมตร ได้กลายเป็นจุดเด่นที่สุดเหมือนกับชื่อของน้ำตกแห่งนี้ นั่นคือสามารถเล่นน้ำแบบสไลเดอร์ได้อย่างสนุกสนาน ผสมกับความหวาดเสียวเล็กน้อย

ขณะเดียวกันด้านบนขึ้นไปก็ยังมีน้ำตกไหลลงมาตามโขดหินน้อยใหญ่อีกหลายสิบชั้น จนถึงต้นน้ำหรือจุดสูงสุดของเทือกเขาบรรทัด ที่มีระยะทาง 6-7 กิโลเมตรเลยทีเดียว ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีป่าไม้ และพืชพรรณนานาชนิด เช่น ต้นท้ายเภา ต้นเพกา ผักกูดช้าง รวมทั้งมีสัตว์ป่าอีกหลายชนิดที่ลงมาหากินยังน้ำตกแห่งนี้ เช่น สมเสร็จ เลียงผา เก้ง กวาง ลิงค่าง หมูป่า ฝูงผีเสื้อสวยงาม หรือปลาหวด ปลาประจำท้องถิ่นที่มีอย่างชุกชุม

เนื่องจากชาวบ้านต่างช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบริเวณนี้กันอย่างเข้มแข็ง และไม่มีข่าวคราวการเข้ามาลักลอบตัดไม้ทำลายป่า หรือสร้างความเสียหายใดๆ มานานแล้ว

นอกจากนั้น น้ำตกหนานฟ้า..สไลเดอร์ ที่ไหลลงสู่พื้นที่อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ยังได้ชื่อว่าเป็นสายน้ำที่ใสสะอาด และบริสุทธิ์มากที่สุดในบริเวณฝั่งนี้ เพราะเคยมีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว และเก็บตัวอย่างน้ำไปทำการวิจัยเมื่อปี 2560 แต่ไม่ปรากฏพบกรด ด่าง หรือสารเจือปนใดๆ

ชาวบ้านจึงสามารถตักน้ำในน้ำตกไปดื่มกินได้เลย โดยไม่ต้องนำไปต้ม หรือผ่านกระบวนการใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวเองต่างก็รู้สึกพอใจในสายน้ำที่ใส ไหลเย็นสุดสดชื่นกว่าน้ำตกที่อื่นใด จึงยอมที่จะเดินเท้าเข้ามาเยือน ถึงแม้ว่าจะต้องบุกป่าฝ่าดง และอาจมีระยะทางค่อนข้างไกลสักหน่อย แต่ก็รู้สึกคุ้มค่ากับสภาพธรรมชาติที่ได้สัมผัส