ไกด์ชาวลาว แพะคดียาเสพติด ร้องปปป. เอาผิด3ป.ป.ส. - หลังรถของกลางถูกขายราคาถูก
ข่าวประจำวัน
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายไหม (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ไกด์นำเที่ยวชาว สปป.ลาว พร้อมด้วย นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติไม่ชอบ หรือ บก.ปปป.
เพื่อ ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จำนวน 3 นาย และตำรวจชุดจับกุม ในความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หลังเมื่อปี 2559 เคยถูกเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นายดังกล่าวจับกุมจนติดคุกในคดีลักลอบขนเฮโรอีน 13 กิโลกรัม ก่อนที่ต่อมาศาลจะมีคำสั่งยกฟ้อง แต่ภายหลังได้รับอิสรภาพกลับพบว่ารถยนต์ของตนเองที่ถูกยึดเป็นของกลาง ได้ถูกขายทอดตลาดไปแล้ว
นายรัชพล กล่าวว่า การขายทอดตลาดรถของกลางของนายไหมในคดีนี้ พบพิรุธอยู่หลายประการ คือ หลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องตามศาลชั้นต้น ถือว่าคดีอาญาเป็นที่สิ้นสุด เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ต้องคืนทรัพย์สินทั้งหมดที่ยึดจากจำเลย
โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 แต่ทาง ป.ป.ส.มีการแจ้งขายทอดตลาดรถ ในวันที่ 7 ม.ค. 2563 แต่ไม่ได้ระบุวันขาย ก่อนที่จะขายทอดตลาดรถไป ซึ่งตามกฎหมายแล้วทำไม่ได้ อีกทั้งมีการขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดเกินจริง และรถยนต์คันดังกล่าวไม่ถือเป็นรถในคดี เนื่องจากไม่ได้ใช้ก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่กลับยึดมาขณะเข้าจับกุม ซึ่งนายไหมกำลังขับอยู่
ด้านนายไหม กล่าวว่า หลังจากได้ทำเรื่องร้องเรียนไปตามขั้นตอน ได้เสนอขอเงินชดใช้ค่าเสียหาย และค่าเสียเวลาไป 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเกือบ 300,000 บาท แต่ทาง ป.ป.ส. เสนอให้เงินชดใช้ค่าเสียหายเพียงแค่ 20,000 บาท ตามราคารถที่ถูกขายทอดตลาดไป ซึ่งตนเห็นว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด เพราะซื้อรถคันนี้มาในราคา 350,000 บาท อีกทั้งยังต้องใช้เงินในการสู้คดีและเดินทางร้องเรียน เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับนายไหมได้ถูกจับกุมในข้อหาขนเฮโรอีน 13 กิโลกรัม จากนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มายังจังหวัดอุดรธานี โดยได้รับค่าจ้าง 3,500 บาท และถูกจับกุมเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2559 พร้อมยึดรถยนต์ยี่ห้อเชอรี่ มูลค่า 350,000 บาท เป็นของกลาง ระหว่างพิจารณาคดีต้องอยู่ในคุกไม่ได้ประกันตัว
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 60 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง และ วันที่ 22 ม.ค. 62 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยศาลเห็นพ้องตรงกันว่านายไหมไม่เกี่ยวข้อง และไม่ใช่ผู้ร่วมขบวนการ ส่วนรถยนต์ศาลสั่งให้คืนเพราะคดีถึงที่สุดแล้ว รวมระยะเวลาติดคุกไปกว่า 2 ปี
เมื่อออกมาจากคุกจึงมาถามหารถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งทาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. แจ้งว่า รถยนต์คันดังกล่าวได้ขายทอดตลาดไปแล้ว ในราคา 20,000 บาท ซึ่งราคาต่ำกว่าราคาท้องตลาด นายไหมรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ต้องสูญเสียทรัพย์สินไปโดยไม่มีผู้รับผิดชอบ
ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์
.......
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
ปาฏิหาริย์อีกครั้ง เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ช่วยชีวิตคุณยายวัย 73 ปี ให้รอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ (คลิ๊ก)พระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดอรุณ พระผู้สร้างเหรียญพระเจ้าตากชาววัดอรุณ หนึ่งเดียวในตำนานประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี (คลิ๊ก)
สแกน QR Code เพื่อการเที่ยวชมความจริงของวัดอรุณราชวรารามแบบจำลองความจริงทั้งพระบถ
QR Code เพื่อการสำรวจความงามของวัดอรุณทั้งพระอาราม.
QR 碼以探索黎明寺的美麗。整個修道院。