รวบคาด่าน 2 หนุ่มสาว ร่วมกันฉ้อโกง-ฟอกเงิน สูญเป็นล้าน อ้างไม่คิดว่าจะเสียหายขนาดนี้
ข่าวประจำวัน
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตม.จว.จันทบุรี นำโดย พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส, พ.ต.ท.ธรรมม์ยุรา สุรัติสุพพัต รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี, พ.ต.ท.นิพนธ์ เรืองสม, พ.ต.ท.ฉัฐเมศร์ จารุเรืองพงศ์ สว.ตม.จว.จันทบุรีและเจ้าหน้าที่ ตม.จว.จันทบุรี บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.5 เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยจับกุม น.ส.แก้วตา อายุ 27 ปี และนายอภิชาติ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1252/2566และ 1253/2566 ลงวันที่ 21 เม.ย.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตัวเป็นคนอื่น, ร่วมกันทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ม.4 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
โดย ตม.จว.จันทบุรี ได้รับการประสานจาก ตำรวจ บก.สอท.5 ว่าผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ทั้ง 2 รายที่ก่อเหตุร่วมกันฉ้อโกงประชาชนไว้นั้น หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณชายแดน ไทย กัมพูชา ด้าน จ.จันทบุรี เพื่อหลบซ่อนตัวจากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ แต่ด้วยมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนจึงต้องเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย ทางจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ม.4 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
ซึ่งในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ซึ่งวางกำลังเฝ้าติดตามอยู่แล้ว เมื่อสังเกตเห็น น.ส.แก้วตาและนายอภิชาติ จึงเข้าจับกุมไว้ได้ก่อนที่จะหลบหนีไป หลังจากที่ถูกจับกุม น.ส.แก้วตา และนายอภิชาติ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายนี้มาก่อน และไม่คิดว่าการกระทำของตนนั้นจะก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อผู้อื่นเป็นจำนวนมากขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 ราย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.5 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิพัทฒ์ สัจจพันธ์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 สั่งกำชับให้ ตม.จว.จันทบุรี เพิ่มความเข้มงวดกวดขัน ตรวจสอบบุคคลที่มีหมายจับของทางการ ที่เดินทางเข้า-ออก บริเวณชายแดนประเทศไทยติดต่อกับประเทศกัมพูชา ให้สืบสวนหาข่าวเฝ้าระวังผู้ต้องหาตามหมายจับในพื้นที่
พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกคนรวมถึงเยาวชน รู้เท่าทัน ว่าหากรับจ้างเปิดบัญชีม้า นั้นเป็นความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิด เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
ทั้งยังมีความผิดฐานฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ซึ่งอัตราโทษสำหรับความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 10,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542
ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์
.......
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)
ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ (คลิ๊ก)
ปาฏิหาริย์อีกครั้ง เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ช่วยชีวิตคุณยายวัย 73 ปี ให้รอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ (คลิ๊ก)พระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดอรุณ พระผู้สร้างเหรียญพระเจ้าตากชาววัดอรุณ หนึ่งเดียวในตำนานประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี (คลิ๊ก)
สแกน QR Code เพื่อการเที่ยวชมความจริงของวัดอรุณราชวรารามแบบจำลองความจริงทั้งพระบถ
QR Code เพื่อการสำรวจความงามของวัดอรุณทั้งพระอาราม.
QR 碼以探索黎明寺的美麗。整個修道院。