ข่าวกำชับพื้นที่แล้ว! กดดันสารวัตรคลั่งอยู่แค่ชั้น 2 ดูสถานการณ์ เมื่อจำเป็นอาจใช้กระสุนจริง - kachon.com

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พ.ต.ท.กิตติกานต์ (ขอสงวนนามสกุล) ตำแหน่งสารวัตร สังกัดศูนย์พัฒนาด้านการข่าว บช.สันติบาล เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ยิงปืนภายในบ้านพักย่านสายไหมตั้งแต่ช่วงสายวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งคืนมีการเจรจากับสารวัตร แต่ก็ยังไม่เป็นผล โดยตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปิดล้อมพื้นที่ และใช้การเจรจาเกลี้ยกล่อมต่อเนื่อง สลับการร้องเพลงเพื่อให้ผู้ก่อเหตุมีอารมณ์เย็นลง

ต่อมาเวลา 08.00 น. อดีตผู้บังคับบัญชาของพ.ต.ท.กิตติกานต์มาเจรจา โดยยืนยันจะให้กลับไปทำงานที่สังกัดเดิม ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธี ผู้บังคับการสืบสวน สอบสวนตำรวจนครบาล อดีตผู้บังคับบัญชาพ.ต.ท.กิตติกานต์ มาเจรจาเป็นเวลาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนสนิทยังคงร้องเพลงขับกล่อมหลายเพลง โดยล่าสุดร้องเพลง พบรักที่ปากน้ำโพ พร้อมทั้งตะโกนบอกว่า “ออกมาได้แล้ว พี่พวกเราปส. รักพี่ทุกคน ออกมาหาพวกเรานะพี่” แต่ก็ไร้การตอบรับ

จากนั้นเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร และพล.ต.อ.สำราญ นวลมา เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเพื่อบัญชาการ และควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่พยายามกดดัน เพื่อเข้าควบคุมตัวหรือแม้กระทั่งเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุมอบตัวนั้น เจ้าหน้าที่ มีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา เบื้องต้นมีความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตราย ต่อตัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะผู้ก่อเหตุยังมีเครื่องกระสุนที่พร้อมตอบโต้เจ้าหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนความคืบหน้าในการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่สามารถเปิดพื้นที่ควบคุมได้มากขึ้นและเปิดช่องว่าง ที่ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นตัวผู้ก่อเหตุ โดยสามารถกดดันให้ผู้ก่อเหตุอยู่ในบริเวณชั้น 2 ของห้องพัก เป็นผลมาจากการใช้โดรน บินเข้าไปตรวจการด้านใน

แต่ในขณะนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่ายจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบใช้ยุทธวิธีจู่โจม ซึ่งต้องประเมินว่า อาการป่วยของผู้ก่อเหตุจะต้องใช้วิธีใด หากประเมินแล้ว จำเป็นต้องใช้กระสุนจริง เจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานทันที ส่วนการเจรจาสื่อสารนั้นไม่สามารถ จะสื่อสารแบบคนปกติทั่วไปได้

มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาในการเข้าจู่โจม ชุดปฏิบัติการพิเศษถูกกระสุนของผู้ก่อเหตุยิงสวนมาถูกหมวก แต่กระสุนแฉลบออกไปทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และเปิดเผยภาพจากโดรนที่บันทึกภาพผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในบ้านพักได้ชัดเจน

ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมายังที่เกิดเหตุและได้ฟังรายงานสรุปสถานการณ์ล่าสุด พร้อมประชุมวางแผนกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อยุติเหตุการณ์ต่อไป