คุม 'ต้น' ผัวโหด ทำแผนราดน้ำมันเผาเมีย ร่ำไห้เปิดใจเครียด อยากตายตกตามกัน
ข่าวประจำวัน
จากกรณีตำรวจจับกุมนายพิสุทธิ์ศิริ จันทร์โสดา หรือต้น อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาฆ่าจุดไฟเผาและใช้มีดกระหน่ำแทงภรรยาคือ น.ส.ณัฐนันท์ หรือหมอน อายุ 45 ปี จนเสียชีวิตในคูน้ำ บริเวณหน้าโรงบำบัดน้ำเสีย ภายในซอย 9A นิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ
สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มี.ค. ที่ซอย 9A นิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู พร้อมกำลังตำรวจเกือบ 100 นาย นำตัวนายพิสุทธิ์ศิริ หรือต้น ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ โดยมีกำลังตำรวจเกือบ 100 นายมาดูแลความเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย หลังพบว่าในวันนี้มีชาวบ้านในพื้นที่ และญาติของพลเมืองดี เข้ามาเฝ้าสังเกตการณ์การทำแผนจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ตัวของผู้ต้องหาลงมาจากรถ โดยมีตำรวจคอยประกบ ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าไปถึงตัวผู้ต้องหาได้ จากการสังเกตพบว่าตำรวจได้สวมหมวกกันน็อกและใส่แมสสีดำให้กับผู้ต้องหา และเริ่มทำแผนในจุดนี้ ซึ่งเป็นจุดหลักในการก่อเหตุ พร้อมทั้งใช้ตำรวจผู้หญิง มาเป็นแสตนอินแทนผู้เสียชีวิต
โดยการทำแผนวันนี้ เริ่มจากตัวผู้ต้องหาขับรถมาจอดยังบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมกับผู้เสียชีวิต ซึ่งในระหว่างทาง ผู้ต้องหาอ้างว่าเกิดมีปากเสียงกัน และผู้ต้องหาลงมาขอน้ำกับพลเมืองดี จากนั้นผู้เสียชีวิตได้วิ่งหนีลงจากรถ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะวิ่งตามมา โดยขณะนั้นผู้เสียชีวิตได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีบริเวณรถสองแถว ทำให้ผู้ต้องหาโมโหแล้ววิ่งตามมาเอาน้ำมันมาราดผู้เสียชีวิตและพลเมืองดี ก่อนใช้ไฟจุดไฟเผา ทำให้ผู้เสียชีวิตวิ่งหนีลงไปที่คูน้ำทันที หลังจากนั้นผู้ต้องหาจึงวิ่งกลับมาเอามีดดาบ ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ และวิ่งตามไปกระหน่ำแทงผู้เสียชีวิตบริเวณคูน้ำ ก่อนจะกลับมาที่รถและขับรถหนีไป
ส่วนอีก 2 จุดบริเวณหอพัก ที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร และจุดที่ไปจอดรถตอนแรกบริเวณหน้าสนามกอล์ฟ ซึ่งจุดนี้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ทางพนักงานสอบสวนจะไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
ขณะเดียวกันระหว่างการทำแผนผู้ต้องหาเปิดเผยสั้นๆว่า “เมื่อวานครอบครัวของภรรยาไม่ให้อภัย ผมรู้สึกเสียใจและเครียดมาก อยากจะตายตกตามเมียไป”
ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู กล่าวว่า หลังจากเมื่อวานนี้ได้สอบปากคำตัวผู้ต้องหาตลอดทั้งวัน พบว่าผู้ต้องหามีอาการเครียดและบ่นอยากฆ่าตัวตาย จึงกำชับสิบเวรที่ดูแลหน้าห้องขังดูแลกรณีพิเศษ และให้แยกขังเดี่ยว เนื่องจากมีกล้องวงจรปิดและตำรวจสามารถดูแลได้ตลอด แต่จากการเรียกมาพูดคุยอีกครั้งในวันนี้พบว่าดีขึ้น โดยผู้ต้องหายังคงยืนยันในคำให้การเหมือนเดิม และเต็มใจที่จะมาชี้จุด ประกอบคำให้การในวันนี้ ซึ่งได้เน้นชี้จุดหลักที่ก่อเหตุ
เบื้องต้น ผู้ต้องหามีอาการบาดเจ็บที่บริเวณมือ เพราะถูกไฟลวก รวมถึงหัวเข่าถลอก เนื่องจากปีนขึ้นมาจากคูน้ำ ส่วนญาติของผู้ต้องหายังไม่มีติดต่อเข้ามา โดยวันนี้ยังคงยึดในข้อหาเดิม คือ “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อนและข้อหาเกี่ยวกับการพกพามีด”
โดยขณะนี้ทางตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งคลิปจากโซเชียล ประจักษ์พยาน และการรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจนถึงพฤติการณ์ในการก่อเหตุ เนื่องจากไม่ใช่อุปกรณ์ปกติ และมีการเตรียมการมาก่อนชัดเจน
จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาไม่ได้มีอาการป่วยทางจิต แต่คาดว่าสาเหตุมาจากเรื่องพฤติกรรมส่วนตัว ส่วนการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกาย ยังไม่พบ แต่อยู่ระหว่างรอผลจากแพทย์ชัดเจน
ส่วนประเด็นกรณีพลเมืองดี อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้บาดเจ็บและรอผลใบแพทย์ก่อนจะแจ้งข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น” เบื้องต้นได้ประสานไปยัง กระทรวงยุติธรรมเพื่อให้เยียวยาตามสิทธิ์ของกฎหมายแล้ว
อย่างไรก็ตามในวันที่ 9 มี.ค. (พรุ่งนี้) พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจากทางข่าวสดออนไลน์
.......
บารมีเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี คุ้มครองชีวิต (คลิ๊ก)
ปาฏิหาริย์อีกครั้ง เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ ช่วยชีวิตคุณยายวัย 73 ปี ให้รอดตายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ (คลิ๊ก)
พระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดอรุณ พระผู้สร้างเหรียญพระเจ้าตากชาววัดอรุณ หนึ่งเดียวในตำนานประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี (คลิ๊ก)
สแกน QR Code เพื่อการเที่ยวชมความจริงของวัดอรุณราชวรารามแบบจำลองความจริงทั้งพระบถ
QR Code เพื่อการสำรวจความงามของวัดอรุณทั้งพระอาราม.
QR 碼以探索黎明寺的美麗。整個修道院。