ข่าวเร่งหาสาเหตุ ไฟไหม้ อาคาร บก.น.5 ผู้การฯ ยันเอกสารสำคัญไม่เสียหาย สิบเวร แจงพิกัดต้นเพลิง - kachon.com

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ภายในกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ว่า หลังจากควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดแล้ว ตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ โดยพฐ. มาถึงที่เกิดเหตุตั้งแต่เวลา 06.10 น.

ทั้งนี้ อาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นอาคารสูง 3 ชั้น เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหลัง ยังพบกลุ่มควันโพยพุ่งออกมาเป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย ยังคงฉีดน้ำเลี้ยงเถ้าถ่านป้องกันไม่ให้ไฟกลับมาครุอีกครั้งหนึ่ง

จากการสังเกตจากภายนอกเห็นได้ชัดว่า โครงสร้างของอาคารที่เป็นพื้นไม้พังถล่มเสียหายหมดเหลือแต่โครงปูน นอกจากนี้พบรถยนต์เสียหาย 6 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน โดยมี 2 คันที่เสียหายหนัก เนื่องจากจอดอยู่ใต้อาคาร นอกจากนี้รถประจำตำแหน่งของผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้รับความเสียหายด้วย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอยู่ในระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งว่าเพลิงไหม้จากอะไร

ขณะที่ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยรอผลการตรวจสอบจากพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง เพื่อแน่ชัดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้มาจากอะไร รวมถึงการประเมินมูลค่าความเสียหายเนื่องจากเป็นอาคารที่ทำการของ บก.น.5 ซึ่งเก็บเอกสารสำคัญต่าง ๆ รวมถึงมีรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่เสียหายไปกับกองเพลิงอีกด้วย

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า อาคารหลังนี้เป็นอาคารเก่าแก่ มีโครงสร้างเป็นไม้ประกอบกับปูน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เป็นที่เก็บเอกสาร ทั้งนี้ในช่วงเวลาขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลานอกราชการจึงไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในอาคารดังกล่าว มีเพียงสิบเวรรักษาการณ์

อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้จากคำบอกเล่าของสิบเวรรักษาการณ์แจ้งว่าต้นเพลิงลุกไหม้จากบริเวณชั้น 1 ของตึก ก่อนจะลุกลามไหม้ทั้งตึกโดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 10 นาที ทั้งนี้มีรายงานว่า ทางตำรวจได้เชิญตัวสิบเวรรักษาการณ์ไปให้ปากคำที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ

ด้าน นายวิศรุต บัวพรหม อาสาสมัครบรรเทสาธารณภัยหน่วยไอด้า เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งตัวเองรีบเข้าพื้นที่โดยเร็วพร้อมกับเจ้าหน้าที่นายอื่นๆ ช่วงที่มาถึงเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และมีลมพัดแรงออกมาทางฝั่งริมถนนสาทร ซึ่งในตอนนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าระงับเหตุได้ในทันที เนื่องจากมีความร้อนแผ่ออกมาอย่างหนัก บริเวณรั้วเหล็กด้านหน้าร้อนจนไม่สามารถสัมผัสได้

โดยอุปสรรคขณะนั้น คือกระแสลม และโครงสร้างของอาคารที่ค่อนข้างเก่า ซึ่งพื้นส่วนใหญ่เป็นพื้นไม้ถูกเพลิงไหม้ทั้งหมดและหลังคาของอาคารก็ถล่มลงมา เจ้าหน้าที่และอาสาจึงต้องใช้ความระมัดระวัง

ต่อมา พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 เปิดเผยว่า กรณีเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้น บริเวณอาคารกองบังคับการตำรวจนครบาล5 ซึ่งเป็นอาคารสูง 3 ชั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากการตรวจสอบเบื้องต้นเรื่องของเอกสารที่มีการนำมาเก็บไว้ในพื้นที่ พบว่าส่วนหนึ่งได้รับความเสียหาย แต่อีกส่วนหนึ่งอยู่บริเวณที่ไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญไม่ส่งผลต่อเอกสารสำคัญในคดีต่างๆ ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เนื่องจากไม่อยู่ในส่วนที่เกิดเหตุเพลิงไหม้

ส่วนจุดที่เกิดเพลิงไหม้เป็นส่วนของสำนักงาน ส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความเสียหายและทรัพย์สินส่วนตัว ทั้งนี้อาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าก่อสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2504 อายุกว่า 60 ปี ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับอาคารหลังดังกล่าว เดิมทีเป็นที่ทำการ ของตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ก่อนที่จะย้ายไปที่พหลโยธิน แล้วกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 จึงย้ายมาทำการตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน รวมระยะเวลา 6 เดือน หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะย้ายไปทำงานที่อาคารด้านหลัง ส่วนตัวอาคารที่ได้รับความเสียหาย ต้องรอเจ้าหน้าที่กองโยธาธิการพิจารณาว่าโครงสร้างแข็งแรงพอจะใช้ต่อได้หรือไม่