ข่าวจับ2คนร้าย หลอกขายรถจยย. สาวท้องแก่เศร้า หวังไว้ใช้ตอนคลอด สูญหมดตัว - kachon.com

เมื่อวันที่ 27 ม.ค 2565 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 / หน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT) พร้อมชุดทำงานได้ร่วมกันสืบสวนจนจับกุมตัวนายศุภกิจ ถนอมชู อายุ 31 ปี ชาวต.กลาย อ.ท่าศาลา นครศรีธรรมราชและน.ส.สุดารัตน์ พรมสมบัติ อายุ 33 ปี ชาวต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฟอกเงิน”

พล.ต.ต.ธีรเดชเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ของ บก.สส.ภ.2 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเป็นหญิงท้อง 6 เดือน ว่าได้ติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX ปี 2018 สีขาว กับเฟซบุ๊กชื่อว่า “อดิลก งามฉ่ำ” โดยเฟซบุ๊กดังกล่าว มีการโพสต์ขายรถจักรยานยนต์ในรูปแบบสาธารณะที่บุคคลทั่วไปสามารถติดต่อซื้อขายได้ มีการสร้างเครดิตให้ตนเองโดยการเอาภาพจากเฟซบุ๊กอื่นๆมาลงโพสต์ ทำเสมือนว่าเป็นร้านขายรถจักรยานยนต์จริง จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ส่วนแรก เมื่อถึงเวลาตามที่กำหนดแล้ว ก็ไม่มีการจัดส่งเมื่อผู้เสียหายติดตามสอบถามเพื่อขอเงินคืน กลับถูกคนร้ายก็หลอกผู้เสียหายต่อไปอีกสูญเงินเก็บ14,130 บาท จนสุดท้ายก็ไม่มีการจัดส่งรถจักรยานยนต์ให้แต่อย่างใด และถูกบล็อกและขาดการติดต่อไป เดือดร้อนมากสูญเงินเก็บทั้งหมด ต้องการเตรียมสร้างอนาคตให้ลูกที่จะเกิดมา อีกทั้งยังมีปัญหากับสามีที่ไม่รอบคอบ

หลังรับแจ้งทางชุดทำงานจึงได้เดินทางไปพบผู้เสียหายที่จังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อซักถามข้อมูล โดยผู้เสียหายได้กล่าวว่ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ตัดสินใจซื้อรถจักรยานยนต์มาเพื่อให้สามีขับทำงานหาเงินไปใช้ฝากครรภ์ โดยเงินที่ใช้ซื้อรถจักรยานยนต์คันนี้ ก็เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้าย ซึ่งถูกหลอกจนหมดตัวเหลือในบัญชีเพียง 1 บาท ไม่ทราบว่าจะใช้ชีวิตหลังจากนี้อย่างไร อยากให้ ผบ.ตร. ช่วยจับคนร้ายให้ได้และนำเงินมาคืนให้ด้วย”
ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้รับทราบเรื่องแล้วจึงสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ (ONLINE PATROL) ประสานงานร่วมกับ ร่วมกับ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดปฏิบัติการที่ 5 ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกับ สภ.แสนสุข จังหวัดชลบุรี กระทั่งพ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.บช.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พร้อมชุดทำงานได้รวบรวมหลักฐานขอศาลจ.ชลบุรีอนุมัติหมายจับ ก่อนร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้

พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยต่อว่าในชั้นจับกุม น.ส.สุดารัตน์ พรมสมบัติ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าถูกนายศุภกิจชักชวนให้ส่งเอกสารบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านให้เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินออนไลน์ ตนเองหลงเชื่อและยอมส่งเอกสารให้
ส่วนนายศุภกิจ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ยอมรับว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายในคดีนี้โดยใช้บัญชี น.ส.สุดารัตน์ในการทำธุรกรรมการเงิน โดยกระทำการเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว และมักจะใช้วิธีการเลือกเหยื่อที่หัวอ่อน ขู่ง่าย เหยื่ออยู่ไกลเพื่อยากต่อการติดตามโดยจะใช้การปลอมตัวเป็น 2 คน ทั้งชายและหญิงสลับไปมาเพื่อให้ผู้ถูกหลอกลวงเกิดความสับสน สาเหตุที่ก่อเหตุเนื่องจากนำเงินไปเล่นการพนันเกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงิน บัญชีเฟซบุ๊กก็ใช้ของเพื่อนที่ยังติดคุกในข้อหา ยาเสพติด

จากการตรวจสอบประวัติของนายศุภกิจ พบว่าเคยต้องโทษคดีฉ้อโกงมาแล้ว 2 คดี ปี 2561 สภ.เบตง จังหวัดยะลา ปี 2561 กับสภ.ธารโต จังหวัดยะลาและปี 2561 ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้า สภ.หัวไทร นครศรีธรรมราช ในส่วนของ น.ส.สุดารัตน์ พบประวัติคดี ปี2561ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาบ้า สภ.หัวไทร นครศรีธรรมราช
“แม้มูลค่าความเสียหายในคดีนี้จะไม่เยอะมาก แต่สำหรับผู้เสียหายรายนี้เป็นเงินก้อนสุดท้าย ขอฝากเตือนประชาชน ในการเลือกซื้อของออนไลน์ ควรเลือกซื้อกับบุคคลที่น่าเชื่อถือ หรือจ่ายเงินเมื่อได้รับสินค้าจะปลอดภัยที่สุด” พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวทิ้งท้าย