ข่าวจับคาร้านทำผม! สาวร่วมแก๊งตุ๋นยาย ชวนเล่นพนัน เหยื่อเพียบ สูญ80ล้าน - kachon.com

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ม.ค.2565 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. แถลงจับกุม น.ส.ชณัชชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ 283/2562 ลงวันที่ 27 ธ.ค.2562 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” หลังจับกุมตัวได้ที่หน้าร้านตัดผมในต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรายหนึ่งเป็นหญิงชรา อายุ 75 ปี เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุม น.ส.ชณัชชา ซึ่งมีพฤติกรรมหลอกลวงในลักษณะเป็นขบวนการ “แก๊งกำถั่ว” เหตุเกิดขึ้นเมื่อเดือน มี.ค.2561 ผู้เสียหายประกาศขายบ้าน ในราคา 7.5 ล้านบาท และประกาศขายแมนชั่น ในราคา 35 ล้านบาท

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวต่อว่า จากนั้นก็มีนายป้อม (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ติดต่อเข้ามาขอเป็นนายหน้า โดยพาหญิงสาวชื่อ เจ๊เพ็ญ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) มาพบเพื่อขอดูบ้านและแมนชั่นตามที่ประกาศขาย อ้างว่าจะพาคนมาซื้อบ้านหลังดังกล่าว

กองปราบ บุกจับ สาวแสบ ร่วมแก๊งต้มยายวัย75 ชวนเล่นพนัน เผย เป็นขบวนการใหญ่ พบเหยื่อโดนหลอกนับร้อยราย

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า หลังผู้เสียหายเริ่มไว้ใจ ผู้ต้องหาก็ทำทีพาผู้เสียหายไปพบกับชายที่อ้างว่าจะเป็นผู้มาซื้อบ้าน อ้างตัวชื่อว่า เสี่ยโอฬาร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ โดยนัดเจอกันที่บังกะโลแห่งหนึ่งในต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อมาถึง ทั้งหมดก็ออกอุบายชักชวนเหยื่อให้ร่วมเล่นพนันกำถั่ว

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็เริ่มแผนการ โดยให้นายป้อม และเจ๊เพ็ญ เล่นเสียพนัน แล้วก็ทำทีเป็นโวยวายใส่ผู้เสียหาย อ้างว่ารู้เห็นกับเสี่ยโอฬาร ร่วมโกงพนัน พร้อมกดดันและบังคับให้ยอมชดใช้เงินที่เสียไป ด้วยวัยชราและความกลัว เหยื่อก็เลยยอมจ่ายเงินให้ไปรวม 2 ล้านบาท จนเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เริ่มเอะใจ จึงรีบติดต่อกลับไปยังกลุ่มผู้ต้องหา แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ทำให้รู้ตัวว่าถูกหลอกแน่ ๆ ก่อนรีบเข้าแจ้งความที่ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พร้อมกับเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากกองปราบ

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องจึงนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ เนื่องจากถือเป็นภัยต่อสังคม กระทั่งสืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นขบวนการใหญ่ เชื่อมโยงอีกหลายเครือข่าย แบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน รวมถึงมีวิธีการต้มตุ๋นเหยื่อด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ เช่น หลอกให้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอม, หลอกร่วมลงทุนซื้อที่ดิน และหลอกให้เล่นพนันกำถั่ว เหยื่อส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มคนสูงอายุที่มีฐานะ

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า โดยพบอีกว่า มีผู้เคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหาแก๊งนี้เป็นจำนวนมาก ความเสียหายรวมกันแล้วกว่า 80 ล้านบาท จึงเร่งแกะรอยหาตัวกลุ่มคนร้ายกระทั่งทราบว่า น.ส.ชณัชชา ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเกี่ยวการเงินให้กลุ่มคนร้าย ก่อนเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวอีกว่า สอบสวน น.ส.ชณัชชา ยังให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะพบมีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันของตำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ติดตัวอีก 6 หมายจับ จึงนำตัวส่ง สภ.พุทธมณฑล ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมจะขยายผลตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการคนอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี มาดำเนินคดีต่อไป