ข่าวหลักฐานเด็ด! เจอในรถลุงพล-ตรวจชั้นสูงชี้ชัด พบอีกผมคนใกล้ชิด ตกบนภูเหล็กไฟ - kachon.com

หลักฐานเด็ด! เจอชิ้นส่วนจากน้องชมพู่ในรถลุงพล ส่งตรวจกระบวนการตรวจด้วยเทคโนโลยีพิเศษชี้ชัด เจออีกเส้นคนใกล้ชิดลุงพล-ตกบนภูเหล็กไฟ

จากเหตุการณ์ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ หายตัวไปจากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2563 ก่อนพบเสียชีวิตอยู่บริเวณเขาภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พ.ค.63 จนเวลาผ่านมา 1 ปีกว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.64 ตำรวจจึงได้ขอศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ใน 3 ข้อหา

ต่อมาวันที่ 2 มิ.ย. ลุงพล พร้อมป้าแต๋น ภรรยาลุงพล และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ได้เดินทางพบตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนถูกแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวมาลงบันทึกที่สน.ปทุมวัน จากนั้นขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อไปที่จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุรับตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ลุงพลให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ ชุดสืบสวนต้องใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานยาวนาน กว่าจะได้ข้อสรุปและออกหมายจับผู้ต้องหา เนื่องจากต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ชั้นสูง ตรวจพิสูจน์หลักฐานชิ้นสำคัญ ได้แก่ ผลการเก็บพยานหลักฐานภายในรถของผู้ต้องหา ทำให้ได้หลักฐานชิ้นหนึ่ง แต่ต้องนำไปเข้ากระบวนการตรวจด้วยเทคโนโลยีพิเศษ จนได้ผลยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนที่มาจากศพของน้องชมพู่ ดังนั้นเมื่อชิ้นส่วนนี้มาตกอยู่ภายในรถของผู้ต้องหา จึงทำให้พนักงานสอบสวนเชื่อมโยงว่า ผู้ต้องหาต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับจุดที่พบศพน้องชมพู่นั่นเอง

นอกจากนี้ การตรวจพบเส้นผมที่ถูกหั่นหรือตัด ในบริเวณที่พบศพของน้องชมพู่ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมเส้นผมทั้งหมด ส่งสำนักงานตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบ จนพบว่าเส้นผมจำนวนหนึ่งเป็นผมของน้องชมพู่ แต่มีบางเส้นที่เป็นของคนใกล้ชิดของผู้ต้องหา เมื่อสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว ไม่พบว่าคนใกล้ชิดผู้ต้องหาเดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟแต่อย่างใด ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงเชื่อว่าเกี่ยวพันกับตัวผู้ต้องหาเอง