ข่าวสามีภรรยา วอนคนขับเก๋งรับผิดชอบ หลังชนจนล้มบาดเจ็บ คาดฉุนบีบแตรใส่ - kachon.com

สองสามีภรรยาถูกรถเก๋งชนจนจยย.ล้ม วอนคนขับออกมารับผิดชอบค่าเสียหาย ลั่นไม่เจตนาแล้วหนีทำไม คาดไม่พอใจบีบแตรใส่

วันที่ 17 พ.ค. 64 น.ส.พิมพ์ใจ อายุ 39 ปี พร้อมด้วย นายณรินทร์ 50 ปี สองสามีภรรยา เปิดเผยว่า ได้เดินทางติดตามความคืบหน้าในคดี ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะขี่รถจยย. กลับรถใต้สะพานทางด่วนวัดบัวขวัญ เพื่อออกถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าถนนรัตนาธิเบศร์ แต่ถูกรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเทา ขับลงทางด่วนมาด้วยความเร็วพุ่งเข้าใส่ในลักษณะหวาดเสียว

ด้วยความตกใจและโมโห จึงบีบแตรใส่รถคู่กรณี ทำให้คนขับรถเก๋งซีวิคเกิดความพอใจ จึงขับรถมาปาดหน้าแล้วแกล้งเบรกกะทันหันเพื่อจะให้รถ จยย.พุ่งชนท้าย แต่เนื่องจากขี่รถไม่เร็ว จึงเบรกได้ทัน เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป รถเก๋งคันดังกล่าว รีบขับหลบหนีไปด้วยความเร็ว ทั้งสองจึงขี่รถ จยย.ไล่ติดตามและถ่ายรูปรถเก๋งซีวิค ทำให้คนขับรถเก๋งตบรถใส่รถจยย. จนล้มลงไปกองกับพื้น จนได้รับบาดเจ็บ

ส่วนคนขับรถเก๋งซีวิคก็ขี่หลบหนีลอยนวลไป ส่วนสองสามีภรรยาซึ่งได้รับบาดเจ็บต้องเดินทางไปยังโรงพัก สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อตกลงค่าเสียหายให้กับรถเก๋ง ฮอนด้าซิตี้ ซึ่งได้รับความเสียหายเป็นรอยบุบหลัง รถ จยย.ล้มไปใส่

น.ส.พิมพ์ใจ กล่าวว่า มีเพื่อนๆของตนที่ทราบข่าว นำคลิปเหตุการณ์ไปแชร์ต่อตามเพจข่าวต่าง ๆ เพื่อหาตัวคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว จนกระทั่งกลางดึกต่อมาตนได้รับโทรศัพท์จากหญิงสาวคนหนึ่ง อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของรถเก๋งซีวิค ปฏิเสธรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่า รถ จยย.ของตนวิ่งซ้ายขึ้นมาในจังหวะที่เขาจะเปลี่ยนเลน จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุซึ่งฝ่ายเขาไม่ผิด

ตนจึงอยากถามว่า คนขับแน่ใจหรือไม่ว่า ไม่ได้มีเจตนาจะชนรถจยย.ของตนให้ล้ม เพราะภาพเหตุการณ์เห็นกันชัดๆ ว่า คนขับรถเก๋งทำท่าจะหักออกมาชนตั้งแต่ทีแรกแล้ว แต่ยังไม่ชน จนในจังหวะที่สองถึงชนรถ จยย.ตนจนล้มลง โชคดีที่ต้องรถ จยย.ล้มไป เป็นจังหวะที่รถชะลอตัว ถ้าเป็นถนนโล่งป่านนี้ตนคงได้รับอันตรายไปแล้ว

น.ส.พิมพ์ใจ กล่าวต่อว่า ตนอยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนก็จะไม่ติดใจเอาความ ต้องการให้เรื่องมันจบ ๆ กันไป เพราะทางคู่กรณีต้องรอค่าซ่อมจากตนเหมือนกันประมาณ 2 หมื่นบาท ส่วนรถ จยย.และค่าทำแผลตนทั้งสองคนก็ประมาณ 1 หมื่นบาท ซึ่งถ้าหากอ้างว่าไม่เจตนาแล้วทำไมต้องขับรถหลบหนีไปไม่หยุดช่วยเหลือ หากอยากให้เรื่องยุติก็ควรออกมารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนก็พร้อมที่จะถอนแจ้งความ

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ครอบครองรถเก๋งซีวิคคันดังกล่าว เป็นของหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ซึ่งจะได้ออกหมายเรียกมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำต่อไป