ข่าวนายทุนเงินกู้โหด ทวงหนี้พีอาร์สาว จิกหัวลากออกสนามบอล-ปืนทุบหน้า - kachon.com

นายทุนเงินกู้โหด บุกทวงเงิน สาวพีอาร์ ใช้ปืนทุบหน้า-ศีรษะ บังคับกราบเท้า ก่อนเตะหน้าหงาย ในสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จ.ขอนแก่น เหยื่อผวาหนัก

จากกรณีโซเชี่ยลมีเดียเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ติดตั้งภายในสนามฟุตบอลแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นเหตุการณ์คนร้ายเป็นชายเดินเข้ามาที่สนามฟุตบอลพร้อมกับหญิงสาวอีกคน ก่อนจะเข้าไปกระชากผมสาวพีอาร์ ที่กำลังทำงานอยู่ขอบสนาม แล้วลากออกมาบริเวณลานจอดรถ

นายทุนเงินกู้โหด บุกทวงเงิน สาวพีอาร์ ใช้ปืนทุบหน้า-ศีรษะ บังคับกราบเท้า

จากนั้นชายคนดังกล่าวหยิบอาวุธปืนสั้น ทราบภายหลังว่าเป็นบีบีกัน ออกมาทุบที่ใบหน้าและศีรษะของสาวพีอาร์คนดังกล่าวตลอดทางที่ลากออกมา ท่ามกลางสายตาคนที่มาออกกำลังกายที่สนาม ก่อนชายดังกล่าวจะลากสาวพีอาร์มานั่งกับพื้นลานจอดรถ บังคับให้กราบเท้า พร้อมทั้งกระหน่ำทำร้ายร่างกาย เอาปืนตบหน้า และศีรษะหลายครั้ง ก่อนจะเก็บปืนใส่กระเป๋า แล้วทั้งตบทั้งเตะเสยหน้าจนสาวพีอาร์หงายหลัง ร้องอ้อนวอนและยกมือไหว้ขอชีวิต แต่ชายดังกล่าวไม่มีทีท่าจะหยุดทำร้าย

ส่วนหญิงที่มาด้วยกันไม่ได้เข้าไปห้ามแต่อย่างใด เวลาผ่านไปเกือบ 5 นาที ชายสวมใส่ชุดกีฬาสีน้ำเงิน ทราบภายหลังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเพื่อนๆ ได้เข้ามาช่วยเหลือ ก่อนจะแจ้งสายตรวจมาควบคุมตัวชายดังกล่าวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองขอนแก่น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสนามฟุตบอลหญ้าเทียม

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.2563 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี หญิงสาวที่ถูกทำร้ายร่างกายในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตนเองติดเงินกู้นอกระบบ 130,000 บาท โดยกู้ยืมจากนายแพร ชายที่อยู่ในคลิป โดยก่อนเกิดเหตุได้พูดคุยกันว่าตอนนี้ยังไม่มีเงินจ่าย และกำลังทำงานเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ โดยยืนยันว่าจะจ่ายแน่นอน ไม่ได้คิดหลบหนี หรือปิดกั้นการติดต่อสื่อสาร สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้นายแพรทราบ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่คิดหนีแน่นอน

"วันเกิดเหตุนายแพร ได้ไปหาแม่ของหนูที่บ้าน ก่อนจะเดินทางมาที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียม เมื่อมาถึงนายแพรก็ดึงแขนแล้วกระชากศีรษะลากออกมา ตามที่เห็นในวงจรปิด ขณะลากออกมาได้สักพักก็หยิบปืนออกมา ตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม จ่อมาที่หนู แล้วพูดว่า "กูยิงมึงตายดีไหมเนี่ย วันนี้กูไม่ได้มาเอาเงิน กูมาเอาชีวิตมึง"

พอนายแพรพูดจบประโยค ก็เอาด้ามปืนมาทุบที่ใบหน้า และศีรษะหนูอย่างแรงหลายครั้ง ก่อนจะลากมาถึงลานจอดรถหน้าทางเข้าสนามฟุตบอล บังคับให้กราบเท้า โดยบอกว่า "มึงกราบเท้ากูสิ" พร้อมทั้งเอาด้ามปืนตบหน้า เหยียบซ้ำ และเตะเสยหน้าจนหนูหงายหลัง และยังทำร้ายซ้ำไปซ้ำมา คนที่เห็นเหตุการณ์ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย เพราะกลัวว่าจะเป็นปืนจริง อาจโดนลูกหลงไปด้วย ก่อนจะมีตำรวจที่มาเตะฟุตบอลเข้ามาช่วยเหลือ" น.ส.เอ กล่าว

หญิงสาวผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า หลังจากมีตำรวจเข้ามาห้ามและช่วยเหลือ นายแพร บอกกับตำรวจว่าตนติดเงินผู้หญิงที่มากับนายแพร แต่ความจริงตนไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักกับผู้หญิงคนดังกล่าวมาก่อน และไม่ได้ติดเงินตามที่นายแพรอ้างกับตำรวจ แต่ติดเงินนายแพรคนเดียว ก่อนหน้านี้ตนเคยยืมเงินนายแพรมาแล้วหลายครั้ง และหมุนเงินคืนให้ได้ตลอด แต่ตนเล่นแชร์แล้วแชร์ล้ม ลูกแชร์ที่เล่นด้วยแล้วเป็นหนี้ก็ไม่ยอมจ่าย ทำให้ไม่มีเงินมาคืนนายแพร

ที่ผ่านมาบอกนายแพรตลอดว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง และไม่เคยหลบหน้า หรือขาดการติดต่อสื่อสาร และพอตนเริ่มมีงานเริ่มตั้งตัวใหม่ ก็บอกนายแพรว่าทำงานอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ให้รอก่อน ได้เงินจะรีบนำเงินไปคืนทันที โดยต้นเดือนธ.ค.ได้ให้ไปก่อน 5,000 บาท และสิ้นเดือนจะจ่ายให้อีก 10,000 บาท โดยนายแพรต้องการให้ใช้หนี้เดือนละ 15,000-20,000 บาท แต่ก็มาทำร้ายร่างกายก่อน และทำให้ตอนนี้ไม่สามารถกลับไปทำงานได้อีก เพราะเสียโฉม บาดเจ็บ บอบช้ำไปทั้งตัว

ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บตามใบหน้าและศีรษะ

"หลังเกิดเหตุหนูไปให้ปากคำ และแจ้งความดำเนินคดีกับนายแพร ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเป็นคนละเรื่องกับที่หนูติดหนี้ ส่วนหนี้สินที่ติดอยู่ ก็ยืนยันว่าจะหามาคืนให้ และทำให้เห็นมาตลอดว่าไม่ได้หนี หรือไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งที่อยู่ ที่ทำงาน นายแพรทราบทั้งหมด แต่ส่วนที่หนูถูกทำร้ายร่างกายก็เป็นอีกเรื่อง ตอนนี้เป็นห่วงครอบครัวโดยเฉพาะแม่ กลัวว่านายแพรจะมาทำร้ายคนในครอบครัวเหมือนที่ทำกับตัวเอง อีกทั้งนายแพรยังขู่ว่ารู้จักคนเยอะเป็นผู้มีอิทธิพล"น.ส.เอ กล่าว

ผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายแพรไปดำเนินคดีแค่ข้อหา ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ ปรับ 1,000 บาท แล้วปล่อยตัวไป ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายนั้น ตำรวจบอกว่าต้องรอผลตรวจจากแพทย์ประมาณ 1 เดือน จึงจะแจ้งข้อหาได้ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นกลัวว่านายแพรจะมาทำร้ายคนในครอบครัว หรือตนเองอีก

จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียง เพราะกลัวว่าคดีจะเงียบ ตอนนี้ก็คงต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง และไม่หนีไปไหน ส่วนอาการตอนนี้บอบช้ำ บวมไปทั้งตัว โดยเฉพาะทางซีกซ้าย ศีรษะแตก 2 จุด ใบหน้าบวมช้ำ หลังช้ำ ใช้ชีวิตประจำวันยากลำบาก