ข่าวจับคาโรงแรม! ผัว-เมียตุ๋นขาย หม้อทอดไร้น้ำมัน ออนไลน์ สูญกว่า 7ล้าน - kachon.com

จับคาโรงแรม! ผัว-เมียตุ๋นขาย หม้อทอดไร้น้ำมัน ออนไลน์ สูญกว่า 7ล้าน
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s

สืบนครบาล บุกรวบผัว-เมียหลอกขาย หม้อทอดไร้น้ำมัน ออนไลน์ มูลค่าเสียหายกว่า 7 ล้านบาท แฉประวัติยาวเป็นหางว่าว เจ้าตัวให้การภาคเสธ

วันที่ 6 ก.ย. ที่กก.สส.4 บก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.พฤฒ ศุภจิตตากร สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.สส.4 บก.สส.บช.น. จับกุม นายพลณธี ภักดีพงศ์พานิชย์ อายุ 38 ปี และ น.ส.ธนิวรรณ ธัญวิวัฒธนากูล อายุ 28 ปี ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" โดยจับกุมได้ที่โรงแรมที่พักแห่งหนึ่ง ย่าน ถ.พิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากนายพลณธี และน.ส.ธนิวรรณ ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ได้ร่วมกันเปิดเพจเฟซบุ๊กขายสินค้า ที่มีชื่อว่า "บริษัทนำเข้า 110 จำกัด" โดยมีนายพลณธี เป็นแอดมินเพจ และประกาศจำหน่ายสินค้าในเพจดังกล่าวหลายประเภท เช่น เฟอร์นิเจอร์, นม, น้ำมันพืช และหม้อทอดไร้น้ำมัน เป็นต้น

โดย น.ส.ธนิวรรณ ได้ติดต่อว่าจ้างให้ นายสายชล เกตุหอม ผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เปิดบัญชีธนาคารใช้ชื่อของนายสายชล จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้นำบัญชีดังกล่าวมาโพสต์ประกาศในเพจ เพื่อใช้เป็นบัญชีรับการโอนเงินจากลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้าและถูกหลอกลวง เมื่อตกลงซื้อขายกับผู้เสียหาย และผู้เสียหายโอนเงินค่าสินค้าไปแล้ว ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ และสินค้าที่สั่งซื้อไปก็ไม่ได้รับ โดยสินค้าที่สร้างความเสียหายมากที่สุดขณะนี้คือ หม้อทอดไร้น้ำมัน

 

สืบนครบาล บุกรวบผัว-เมียหลอกขาย หม้อทอดไร้น้ำมัน ออนไลน์ มูลค่าเสียหายกว่า 7 ล้านบาท

สืบนครบาล บุกรวบผัว-เมียหลอกขาย หม้อทอดไร้น้ำมัน ออนไลน์ มูลค่าเสียหายกว่า 7 ล้านบาท

จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของเพจดังกล่าวจำนวนกว่า 3,000 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการรวมตัวกันของผู้เสียหาย ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "โดนโกงจากบริษัทนำเข้าสินค้า 110 จำกัด" มีสมาชิกในกลุ่มกว่า 3,000 คน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมมือกันในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด โดยกลุ่มผู้เสียหายได้เคยรวมตัวกันไปร้องเรียนและแจ้งความเพื่อดำเนินคดีที่ บก.ปคบ. มาแล้ว เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

ผู้เสียหายบางส่วนเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเพจ "บริษัทนำเข้า 110 จำกัด" ที่สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นผู้กระทำผิด และเป็นเจ้าของเพจดังกล่าว ต่อมาศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เครดิตฟรี

ฝ่ายสืบสวน สภ.หนองปลิง ได้สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งสอง และคาดว่าผู้ต้องหาทั้งสองน่าจะพักอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงประสานกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ให้ช่วยดำเนินการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาทั้งสอง จากการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาทั้งสองมีพฤติกรรมไม่อยู่อาศัยที่ใดเป็นหลักแหล่ง มีการย้ายที่อยู่บ่อย 3-4 วันต่อครั้ง และมีการตระเวนกดเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายตามตู้เอทีเอ็มสถานที่ต่าง ๆ และเป็นเงินจำนวนมาก

กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย. เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองมาพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมที่พักแห่งหนึ่ง ย่านอ.เมือง จ.นนทบุรี จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ และพบผู้ต้องหาทั้งสองเดินทางเข้ามาในโรงแรมที่พัก จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทั้งสองคนทราบ และตรวจยึดทรัพย์สิน เช่น เงินสดจำนวนหนึ่ง, รถยนต์ ยี่ห้อเอ็มจี ทะเบียนป้ายแดง 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองปลิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่า เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นแอดมินเพจเฟซบุ๊กชื่อ "บริษัทนำเข้า 110 จำกัด" จริง แต่มีเจตนาที่จะจำหน่ายสินค้าจริง ๆ โดยอาศัยเงินจากผู้เสียหายที่สนใจสินค้า และโอนมา นำไปสั่งซื้อสินค้าผ่านดีลเลอร์นำเข้ามาจากต่างประเทศ แต่ต่อมาปรากฏว่าไม่มีสินค้าส่งตามกำหนด

ผู้ต้องหา ให้การต่อว่า ประกอบกับเริ่มมีผู้เสียหายทวงถามเข้ามาจำนวนมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจหลบหนีไปตั้งหลักสักระยะหนึ่ง ส่วนเงินที่ได้มาบางส่วนก็ได้นำไปเล่นการพนันออนไลน์ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งทางตำรวจมองว่ายังพบพิรุธหลายประการในคำให้การเบื้องต้น และยังไม่ปักใจเชื่อ จะได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้ต้องหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง 2 พบเคยต้องหาคดีในความผิดลักษณะเดียวกันมาก่อนดังนี้
นายพลณธี มีประวัติต้องหาคดี ได้แก่ ปี 2559 ความผิดฐาน "ฉ้อโกง" สน.หัวหมาก ปี 2561 ความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน" กก.5 บก.ปอศ. ปี 2562 ความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน" สน.ลาดพร้าว

ปี 2562 ความผิดฐาน "ฉ้อโกง" สน.พระโขนง ปี 2562 ความผิดฐาน "ตัวการในข้อหาทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น" สน.โคกคราม ปี 2563 ความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน" (ตรวจสอบพบมีหมายจับ ยังไม่ถูกจับกุมตามหมาย) ปี 2563 ความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน" สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ (คดีที่ถูกจับกุม)

ส่วน น.ส.ธนิวรรณ มีประวัติต้องหาคดี ได้แก่ ปี 2561 ความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน" กก.5 บก.ปอศ. ปี 2562 ความผิดฐาน "พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิด" สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม ปี 2563 ความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน" สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นคดีที่ถูกจับกุมได้ดังกล่าว

 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์

.......

.......

บารมีเหรียญพระเจ้าตากชาววัดอรุณ รุ่นกรุงธนบุรี ช่วยชีวิตหนุ่มใหญ่ให้รอดตายจากเหตุรถพลิกคว่ำ
https://sacred.kachon.com/353935

.......

ประมวลปาฏิหาริย์แห่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ(คลิ๊ก)
https://sacred.kachon.com/353522

.....

ร้านเช่าบูชาวัตถุมงคล by กะฉ่อนดอทคอม(คลิ๊ก)
https://shop.kachon.com 

.....

แผนที่การเดินทาง ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ
https://maps.app.goo.gl/bkTe1MN4d8v8hicW8
.....
https://lin.ee/C9eHtP8

ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก
ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก

ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก
ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก

ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก
ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก

ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก
ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก

ชมภาพทั้งหมด คลิ๊ก
ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก