ข่าวจับแล้ว! พี่ฆ่าตัดหัวน้องชาย รวบกลางป่า บังเอิญเห็นหมา ขณะทยอยถอนกำลัง - kachon.com

จากกรณี นายอนุวัฒน์ กระแหน่ อายุ 23 ปี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองและตัดศีรษะหายไป ภายในสวนมะละกอและสวนกล้วยชายเขา ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี โดยพบศีรษะถูกทิ้งห่างไป 30 เมตร ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายอนุชา กระแหน่ อายุ 29 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต หลังทะเลาะกันเรื่องที่ดินทำมาหากิน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 31 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลจังหวัดอุทัยธานี เพื่อจับกุมตัว นายอนุชา พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 2 ชุด ได้แก่ ชุดสืบสวน สภ.บ้านไร่ และ ชุดสืบสวน ภ.จว.อุทัยธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทีมเจ้าหน้าที่ทหารจาก ร.4 พร้อมชาวบ้านที่เชี่ยวชาญป่าในพื้นที่ รวมไปถึงกำนันตำบลแก่นมะกรูด และญาติของคนร้าย ร่วมลงพื้นที่ค้นหาตัวในครั้งนี้ เนื่องจากนายอนุชา มีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนครบมือ และยังมีความชำนาญในการเดินป่า เนื่องจากเป็นพรานป่าอีกด้วย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด พร้อมอาวุธครบมือ เดินเท้าเข้าไปยังภายในภูเขาในพื้นที่อีกครั้งเป็นวันที่ 3 ซึ่งคาดว่า นายอนุชา จะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวอยู่ โดยวางแผนเดินทางในรูปแบบการกระจายกำลังปิดล้อม โดยเจ้าหน้าที่เดินอยู่ภายในภูเขาลูกดังกล่าวกว่า 6 ชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ยังคงไม่พบตัว พบแต่เพียงร่องรอยการเข้าพักอาศัยที่กระท่อมริมไร่ในทางเข้าภูเขา ที่คาดว่าอาจจะเป็นนายอนุชา เข้ามาหลบพักอาศัย

ด้าน นายตาเวีย องค์พระ ซึ่งเป็นน้าและเป็นคนเอาอาหารไปให้ นายอนุชา ในเขา ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตนได้นำสะเบียง ขึ้นไปให้ นายอนุชา พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ ที่ทางกำนันให้นำไปมอบให้กับ นายอนุชา ด้วยอีก 1 เครื่อง เพื่อหวังไว้ใช้ในการโทรสื่อสารเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย ให้ นายอนุชา ยอมมอบตัวรับโทษแต่โดยดี

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ต้องทำงานกันอย่างระมัดระวัง เนื่องจากผู้ต้องหามีอาวุธปืน หากมีการต่อสู้ขัดขืนและประสงค์ถึงชีวิตเจ้าหน้าที่ ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยยึดหลักยุทธวิธี ระดับการใช้กำลัง พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ในการนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย

หลังจากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น.ที่ผ่านมา เริ่มมีเมฆฝน และมืดค่ำ เจ้าหน้าที่จึงได้ทยอยถอนกำลังกลับ โดยได้ทยอยเดินออกมาจากป่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่นั่งพักใกล้ห้างพักของ นายอนุชา พบหมาของ นายอนุชา วิ่งออกมาจากป่า จึงรีบเข้าไปอุ้ม ระหว่างนั้นก็เห็น นายอนุชา เดินมาที่ห้างพักของตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงดักซุ่มอยู่ จากนั้น นายอนุชา กำลังจะลงไปอาบน้ำในสระ จึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้

เบื้องต้น นายอนุชา ให้การรับสารภาพว่า แค้นฝังใจน้องชายมานานแล้ว จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว นายอนุชา ไปสอบปากคำที่ สภ.บ้านไร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป