เตือนอย่าใช้น้ำมันกัญชามั่ว อันตราย-อาการหนักกว่าเดิม
ข่าวประจำวัน
จากกรณีน้ำมันกัญชา กลายเป็นยาครอบจักรวาล นำไปรักษาผู้ป่วยได้หลายโรค ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและต่อต้านตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. น.ส.บี (นามสมมติ) เปิดเผยว่า พ่อของตนป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ล้มหัวฟาดฟื้น เลือดคั่ง กะโหลกร้าว แม้ไม่ได้เป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่สมองได้รับการกระทบกระเทือน ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไป โดยมีอาการโวยวาย เพราะสมองตื่นตัวอยู่ตลออดเวลา ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ต้องมีคนดูแล 24 ชม. โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)ในพื้นที่เข้ามาให้การดูแลอย่างดี ช่วยประสานงานด้านต่าง ๆ ล่าสุดอสม.ได้เสนอกับน้องสาวตน ว่า อยากลองใช้น้ำมันกัญชาหรือไม่ แต่น้องสาวปฏิเสธ โดยบอกว่าขอปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากตนและพี่น้องได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อต่าง ๆ ว่าน้ำมันกัญชาหากใช้ไม่ถูกต้อง จะมีผลกระทบกับสุขภาพมาก และมีประสบการณ์คนรู้จัก ป่วยเป็นพาร์กินสัน แล้วทดลองหยุดยาแผนปัจจุบัน ไปใช้นำมันกัญชาสกัด แรก ๆ ใช้ผสมกัน หลัง ๆ ทดลองอย่างเดียว ต่อมาพบว่าคนป่วยมีอาการเวียนหัว เหนื่อยเลยหยุดใช้
น.ส.บี กล่าวต่อว่า ทราบว่าทางผู้ใหญ่อ่านข้อมูลที่ส่งต่อกันทางโซเชียล ฟังจากทีวีหลายคนเกิดความเชื่อ แต่เราเห็นตัวอย่างเลยเกิดความกังวลใจ ไม่ให้อะไรพ่อสุ่มสี่สุ่มห้า หรืออะไรที่มีผลต่อการกดสมอง จึงได้ปฏิเสธ ส่วนตัวทำงานอยู่ในแวดวงสาธารณสุขอยู่แล้ว เห็นว่าน้ำมันกัญชาสกัดเป็นเรื่องใหม่ ที่แม้จะมีผลวิจัยในต่างประเทศ แต่ในไทยการศึกษาเรื่องนี้ยังน้อยมาก โรคที่พ่อตนเป็นยังไม่เคยเจอว่าใช้น้ำมันนี้แล้วจะดีขึ้น อยากให้คนทั่วไปมีสติ ไม่ทดลองอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า เราป่วยเองไม่เท่าไหร่ กับคนป่วยที่เสี่ยงต่อชีวิตสูง ยิ่งเสี่ยงเสียชีวิตหรือป่วยมากกว่าเดิม
ต่อข้อถามว่า อสม.แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับน้ำมันกัญชา หรือเสนอให้ใช้น้ำมันกัญชาพร้อมจัดหามาใช้ แหล่งข่าวระบุว่าไม่ได้บอกถึงขั้นว่าไปพบหมอเพื่อขอน้ำมัน พูดแค่ว่าลองใช้น้ำมันกัญชาสกัดดูหรือไม่ คล้าย ๆ ว่าถ้าเราสนใจเขาจะจัดหาให้ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า อสม.ซึ่งเป็นที่พึ่งชาวบ้าน เป็นการรักษาแบบปฐมภูมิด่านแรก ถ้าชาวบ้านโดยทั่วไปไม่มีความรู้ หรือศึกษาข้อมูลไม่มากพอ แล้วเชื่อในสิ่งที่ อสม.แนะนำ อาจเสี่ยงได้รับอันตรายได้ เราไม่รู้ว่าตรงนี้เขานำเข้ามาขายเอง หรือรับคนอื่นมาหรือได้รับการบอกต่อ ๆ กันมาแล้วเชื่อว่ามันจะเป็นทางเลือก ยิ่งอสม.ซึ่งเป็นกึ่งจนท.รัฐด้านสาธารณสุข ต้องมีความรู้และน่าเชื่อถือ มีผลในการโน้มน้าว การเข้าถึงชาวบ้าน ทางกระทรวงสาธาณสุขควรอบรวมอสม.ให้มีความรู้ด้านนี้จริงจัง ให้ใบผ่านการอบรวม อสม. ไม่ควรจัดหาน้ำมันกัญหาให้ชาวบ้านได้เองโดยตรง ถ้าทำผิดต้องมีกฎหมายลงโทษ คนสั่งใช้ควรเป็นแพทย์เท่านั้น
วันเดียวกัน นพ.ชัยวัฒน์ ทองไหม นพ.สสจ.เพชรบูรณ์ และคณะเดินทางลงพื้นที่บ้านพักของ 2 ผัวเมียที่ป่วยโรคเอดส์ ใน ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จากนั้นหันมาใช้น้ำมันกัญชาควบคู่กับยาต้านไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องและวัณโรคแล้ว ระบุว่า อาการดีขึ้น นพ.ชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกายคนป่วย พบว่ามีร่างกายแข็งแรงขึ้น สามารถรับประทานอาหารได้ทางช่องปากตามปกติ จากเดิมที่ต้องให้อาหารทางสายยาง แต่ได้ให้ความรู้ความเข้าใจ การดูแลตนเอง และไม่ได้กีดกั้นการใช้น้ำมันกัญชา แต่ขอให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.กำหนด ขอให้คนป่วยรับประทานยารักษาแผนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการใช้น้ำมันกัญชา ไม่ขอยืนยันว่ามีผลต่อการเจ็บป่วย และสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นหรือหายขาดได้ อีกทั้งต้องรอผลเลือดของผู้ป่วย จึงจะระบุได้ ตรงนี้ต้องขอเวลา โดยในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ คนไข้จะไปรับยาต้านไวรัสที่ รพ.แล้วค่อยมาดูอาการอีกครั้งหนึ่ง.