ข่าว'บุ๋ม'ปลื้ม6ปีสู้เคียงข้างผู้หญิงกม.โทษข่มขืนทันสมัยแล้ว - kachon.com

'บุ๋ม'ปลื้ม6ปีสู้เคียงข้างผู้หญิงกม.โทษข่มขืนทันสมัยแล้ว
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
 กำลังเป็นประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับกรณีที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 หมวดข่มขืน โดยระบุโทษข่มขืน-กระทำชำเรา สูงสุดจำคุกตลอดชีวิต นอกจากนี้  ถ้าการกระทำความผิด เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต แต่หากถึงแก่ความตาย ระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต และ หากสนองความใคร่กับศพ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอตัวนักแสดงสาวคนดัง บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่เคยออกตัวเรื่องการข่มขืนเท่ากับประหาร ในงานแถลงข่าวการประกวดนางสาวไทยในรูปโฉมใหม่ ประจำปี 2562 ซึ่งสาวบุ๋มก็ได้พูดถึงประเด็นนี้ว่า"บุ๋มรู้สึกดีใจมากที่มีกฎหมายนี้ออกมาเพราะเป็นสิ่งที่เราสู้มาตั้งแต่ปี 2557 และเป็นจุดที่เราพยายามเป็นแกนนำในการนำเสียงของประชาชนมาให้กับผู้ใหญ่ได้ยิน ก็ต้องขอบคุณจริงๆ ขอบคุณผู้ใหญ่ที่ฟังเสียงของประชาชน ฟังเสียงของพวกเราด้วย ตอนที่กฎหมายตัวนี้ออกมา เราแทบจะกรี๊ด ดีใจมาก ซึ่งตอนนี้ถ้ามีเหตุการณ์ที่ผู้ป่วย ลูกน้องข้าราชการที่โดนผู้ใหญ่ข่มขืน หรือแม้กระทั่งพ่อข่มขืนลูก ลุงข่มขืนหลาน ซึ่งเราเจอกันเยอะมาก อันนั้นเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่ง คือเพิ่มโทษเป็นเศษหนึ่งส่วนสาม ถ้าข่มขืนผู้ป่วย คนเจ็บ คนพิการ คนที่สติฟั่นเฟือง เพิ่มไปอีกเศษหนึ่งส่วนสามเช่นกัน และทำให้เข้ากับยุคปัจจุบันอีก เช่น ถ้าข่มขืนแล้วมีการบันทึกเสียง บันทึกภาพ อันนั้นก็เพิ่มโทษเป็นเศษหนึ่งส่วนสาม แต่ถ้ามีการเผยแพร่ออกไปก็เพิ่มโทษเป็นกึ่งหนึ่งเพราะแต่ก่อนที่เราฟ้อง เวลาฟ้องทีหนึ่ง มีการบันทึกภาพ ก็ต้องมาถามอีกว่ามันเป็น พ.ร.บ. คอมฯไหม เป็นอะไรไหม มันฟ้องกันยุ่งยากมาก แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วทีเดียวรวดเลยและโทษเพิ่มมากขึ้นด้วย"
 
"บุ๋มว่ามันเป็นอีกก้าวหนึ่งของความสำเร็จ แม้ว่าอาจจะยังไม่ได้คำว่าข่มขืนเท่ากับประหาร แต่บุ๋มเชื่อว่าผู้ใหญ่คงพิจารณาเรื่องของกฎหมายสากลด้วยเพราะบุ๋มเองก็ได้บินไปประชุมที่ต่างประเทศมาแล้วบุ๋มว่านี่คือจุดของความสำเร็จ และจุดที่อย่างน้อยทำให้กลัวมากขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจากวันนี้ไปกระบวนการยุติธรรมจะมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคกับสมัยมากขึ้นหรือไม่ เพราะสิ่งที่เราต้องการ ณ วันนี้หลังจากที่เราช่วยเหลือหลายเคสที่เกิดขึ้น ที่ผู้หญิงโดนทำร้าย ผู้หญิงที่โดนข่มขืน กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงกลุ่มนี้ต้องมานั่งต่อสู้ เพื่อเอาผิดกับคนร้ายอย่างโดดเดี่ยว หลายต่อหลายครั้งต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาล ต้องไปพูดคุยต่อหน้าตำรวจ หลายครั้งที่เธอเหมือนโดนข่มขืนซ้ำตรงนั้นคือสิ่งที่เราอยากจะถามกลับไปว่า แล้วเราจะช่วยเหลือผู้หญิงเหล่านี้อย่างไร และเหยื่อเหล่านี้อย่างไร เพราะเงินเยียวยาเอง ปีหนึ่งกว่าจะได้อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งพอมีกฎหมายนี้ออกมายอมรับว่าเป็นกำลังใจครั้งสำคัญให้กับบุ๋ม ทำให้เรารู้สึกว่า 6 ปีที่เราสู้มามันมีผล ทำให้บุ๋มมีพลังในการสู้เพื่อผู้หญิงต่อไปค่ะ"