ข่าวทนายเดชาขี้แง่มุมกฎหมาย 'แกร๊บ'ซวยติดร่างแห'ขนยา' - kachon.com

กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ หลังผู้ใช้เฟวบุ๊ก@Supansa Ranok ระบุ "#ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ แฟนเราเพิ่งขับ Grab ได้ไม่กี่วันเอง เค้าเคยรับกันครั้งนึงค่ะ แล้วลูกค้าบอกว่าแฟนคุยเก่งคุยดีเลยขอเบอร์ไว้ลูกค้าบอกเค้ากลับบ้านบ่อย จะเหมา แต่วันที่เหมา เค้าโทรมาค่ะ แล้วมาขนยาบ้า ยาไอซ์ พกอาวุธปืนมีลูกอีก #แฟนเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่เป็นคนขับไงก็โดนไปด้วย" จนทำให้เรื่องดังกล่าว กลายเป็นการะแสถกเถียงอยู่ในโลกออนไลน์ในขณะนี้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายชื่อดัง เจ้าของเพจ "ทนายคลายทุกข์" ได้ไขข้องข้องใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า สำหรับคดีนี้ สามารถพิจารณาออกได้เป็น 5 ประเด็นด้วยกัน คือ 1.เนื่องจากเป็นคดียาเสพติด เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อ2.คดีนี้ตำรวจจับผู้ต้องหาคนหนึ่งเป็นคนขับ ส่วนอีกคนหนึ่งมีของกลางเป็นผู้โดยสาร ตามกฎหมายจะถือว่าทั้งคู่ร่วมกันมียาเสพติดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย

แต่ในกรณีที่ข้อ3. หากผู้ต้องหาที่เป็นผู้ขับรถยนต์รับจ้าง ถ้าจะต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธ์ จะต้องต่อสู้ว่า ไม่รู้ว่าผู้โดยสารมียาเสพติดไว้ในความครอบครอง โดยที่ผ่านมา ก็มีโชเฟอร์แท็กซี่เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะนี้มาแล้วเช่นกันที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ซึ่งในคดีนี้ศาลยกฟ้อง โดยมีเหตุเชื่อว่า คนขับแท็กซี่ไม่น่าจะรู้ว่าผู้โดยสารมียาเสพติดอยู่ในความครอบครอง นอกจากนี้ ก็มีคดีที่มีลักษณะคล้ายกันเช่นนี้ ก็ยกฟ้องเช่นกัน

ส่วนในประเด็นที่4. ขณะที่มีการเข้าจับกุม ทางคนขับแกร๊บรายนี้ ได้รับสารภาพหรือปฏิเสธหรือไม่? เพราะหากรับสารภาพทันที การต่อสู้คดีในชั้นศาลก็จะเป็นเรื่องยากมาก เพราะส่วนใหญ่ศาลมักจะเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาที่ให้การทันทีเมื่อถูกจับ เพราะเป็นพยานหลักฐานสำคัญ และสุดท้ายในประเด็นที่5 คดียาเสพติด ถ้ามีสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัม จะมีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต โดยหากมีการทำจริงควรรับสารภาพ เพราะโทษจะลดลง เหลือเพียงจำคุก 25 ปี...


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @ทนายคลายทุกข์,@Supansa Ranok

ข่าวที่เกี่ยวข้อง..
-สาวขอความเป็นธรรมให้แฟน ขับGrabซวย'ลูกค้า'ขนยา!