ท่าเรือแหลมฉบังแจง ยันมีข้อมูลสารเคมีแต่ไม่ได้เอามา
ข่าวประจำวัน
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ห้องประชุม สโมสรท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ตัวแทนจากท่าเทียบเรือ เอ 2 ตัวแทนจากสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า ตัวแทนจากกองทัพเรือ ภาคที่ 1 ตัวแทนจากศูนย์ควบคุมมลพิษ จ.ระยอง ตัวแทนจากสายการเดินเรือ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการแถลงข่าวเหตุเพลิงไหม้บนเรือบรรทุหสินค้า KMTC HONGKONG ท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย
เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จากหน่วยงานก็ได้ระดมกำลังเข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือ จนกระทั่งในเวลา 00.20 น. ของวันที่ 26 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมไว้ได้อย่าง 100 % หลังจากนั้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 (ศพฐ.2) ได้เข้าพื้นที่ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ตู้สินค้า ภายในเรือ KMTC HONGKONG เพื่อพิสูจน์สืบทราบ หาสาเหตุ และจัดเก็บหลักฐานภายในพื้นที่ โดยมี พ.ต.อ.หญิง ขวัญฤทัย ปิยะวงศ์รุ่งเรือง นักวิทยาศาสตร์ (สบ4) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 และทีมงาน ได้แจ้งว่า จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้พบตู้คอนเทนเนอร์ที่เกิดความเสียหาย จากแรงอัดของตู้ด้านล่าง ทำให้ตู้ข้างบนกระเด็นขึ้น และมีน้ำท่วมขัง และจากการดับเพลิงภายในระวางเรือ ซึ่งมีการจัดเก็บตัวอย่างน้ำที่อยู่ในระวางเรือ พร้อมกับ เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรือ และตู้สินค้า เพื่อนำไปประกอบการตรวจพิสูจน์หลักฐาน ทั้งนี้ มีความเห็นเบื้องต้นว่า สามารถระบุบริเวณที่เกิดเหตุได้ในเบื้องต้นแล้ว แต่ต้องมีการพิสูจน์โดยละเอียดอีกต่อไป
ด้านตัวแทนจากศูนย์ควบคุมมลพิษ จ.ระยอง กล่าว่า จากการติดตามและตรวจสอบมลพิษทางอากาศในเบื้องต้นแล้ว พบว่ามีสารแคลเซียมไฮโบโคราย รั่วไหลออกมาตัวเรือบรรทุกสินค้าดังกล่าว ทางศูนย์ควบคุมมลพิษ จ.ระยอง จึงได้ติดต่อสอบถามข้อมูลของการบรรทุกสารเคมี ไปยังบริษัทที่เป็นผู้ดูแลตู้คอนเทนเนอร์แล้วทราบว่า มีการบรรทุกสารเคมีแคลเซียมไฮโบโคราย บรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 13 ตู้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่ติดตามผลกระทบไปยังชุมชน จำนวน 3 จุด ล่าสุดขณะนี้มลพิษทางอากาศได้ลดลงตามลำดับแล้ว
ในขณะที่ทางตัวแทนจากสายการเดินเรือ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้น หลังจากที่เกิดเหตุทางบริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด มีการติดตามและตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือ ส่วนในประเด็นที่ว่าการบรรทุกสารเคมีแคลเซียมไฮโบโคราย บรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 13 ตู้ มีการซุกซ่อนอยู่ในเรือบรรทุกสินค้า โดยไม่สำแดงกับทางเรือแหลมฉบัง นั้น เป็นเพราะสินค้าดังกล่าว จำนวน 13 ตู้ จะนำไปส่งที่ท่าเรือเอกชน ในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงต้องไปสำแดงกับท่าเรือกรุงเทพ
นอกจาหนี้ยังมีประเด็นซัดถามกับตัวแทนจากสายการเดินเรือ ว่าสาเหตุที่เกิดการระเบิดของสารเคมีแคลเซียมไฮโบโคราย นั้นเกิดจากอะไร และอีกประเด็นคือ ทางตัวแทนจากสายการเดินเรือ มีหลักฐานเอกสารการส่งมอบสารเคมีแคลเซียมไฮโบโคราย จำนวน 13 ตู้ กับทางเรือเอกชนจริงหรือไม่ แล้วทำไมไม่นำออกมาแสดง
ตัวแทนจากสายการเดินเรือ กล่าวว่า สำหรับประเด็นแรก ด้วยเหตุที่เกิดอยู่บนเรือ ทางตนยังไม่ทราบแน่ชัด คงต้องรอดูผลการสอบสวนจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 (ศพฐ.2) ให้แน่ชัดจึงจะสามารถตอบได้ และอีกประเด็นนั้น ทางตนในฐานะตัวแทนจากสายการเดินเรือ ขอยืนยันว่า ทางตนมีหลักฐานเอกสารการส่งมอบสินค้าแน่นอน แต่วันนี้ไม่ได้นำมาโชว์
เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องของการดำเนินคดีนั้น คงต้องรอให้ทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 (ศพฐ.2) เข้าเก็บหลักฐานและและประมวลสาเหตุที่เกิด ก่อนจะประสานไปยัง พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน ผกก.สภ.แหลมฉบัง เพื่อดำเนินคีดตามกฎหมายต่อไป ในขณะที่ขั้นตอนการเยียวยานั้น ทางสำนักงานท่าเรือแหลมฉบัง ได้ประสานร่วมกับ เทศบาลนครแหลมฉบัง ในการรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ล่าสุดมีจำนวน 700 รายแล้ว หลังจากนี้ยังคงเปิดโอกาศให้ลงชื่อร้องทุกข์ ได้อีก 2 วัน ก่อนจะมีการรวบร่วมข้อมูล แล้วนำส่งถึงผู้รับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนนี้
เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า สุดท้ายนี้ ถ้าผลของการพิสูจน์หลักฐานออกมา ก็คงต้องรู้แล้วว่าควรจะดำเนินเรื่องค่าเสียหายกับใครยังไง ตนขอยืนยันทุกคนทำงานเต็มที่ และจะเร่งดำเนินการเปิดการใช่งานท่าเรือ เอ 2 ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามข้อมูลในเรื่องของคดีไปยัง พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน ผกก.สภ.แหลมฉบัง กล่าวว่า ในขณะนี้ในเรื่องของคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการเรียกตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ คงต้องรอให้การเก็บหลักฐานของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 (ศพฐ.2) เสร็จก่อน หลังจากนั้นก็จะรู้ว่าควรจะเรียกใครสอบปากคำ.