'บ้านป่าแหว่ง'ฉาวผู้รับเหมาโวย คู่สัญญาศาลเบี้ยวค่าจ้าง
ข่าวประจำวัน
Webmaster
2019-05-21 16:00:00
18
Webmaster
2019-05-21 16:00:00
18
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ผู้รับเหมารายย่อยกว่า 20 ราย ที่รับจ้างเหมาช่วงต่อจากบริษัทเอกชนผู้รับเหมาคู่สัญญาของสำนักงานศาลยุติธรรม ในการก่อสร้างโครงการบ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 หรือ “บ้านป่าแหว่ง” เชิงดอยสุเทพ ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างจากบริษัทเอกชนผู้รับเหมาคู่สัญญาของสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นเงินรวมกันหลายล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ทวงถามมาอย่างต่อเนื่องหลายเดือน ร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
โดยนายเอกรินทร์ (สงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้รับเหมา กล่าวว่า ตนพร้อมกับเพื่อนผู้รับเหมาที่เดินทางมาวันนี้ก็มีจำนวนประมาณ 20 ราย เป็นผู้รับเหมาช่วงจากผู้รับเหมารายใหญ่รายหนึ่ง โดยผู้รับเหมาทั้งหมดเป็นกลุ่มที่ทำทั้งเรื่องทาสี ทำหลังคา และปูพื้น ซึ่งจำนวนเงินก็น่าจะกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ส่งมอบเงินให้กับผู้รับเหมาดังกล่าวไปแล้ว เพราะส่งมอบงานครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นเดือน ธ.ค. 61 แต่ผู้รับเหมาก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาช่วง จึงได้มาร้องศูนย์ดำรงธรรม แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานหลายเดือน ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมอีกครั้ง เพื่อติดตามทวงถามดังกล่าว เพราะผู้รับเหมาหลายราย ก็นำทรัพย์สินส่วนตัวไปจำนำ จำนองไว้ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจ และคิดว่าเมื่อส่งมอบงานเสร็จแล้ว ก็จะได้รับเงินมาดำเนินธุรกิจต่อ แต่ขณะนี้กลับไม่ได้เงิน ทำให้หลายคนที่นำทรัพย์สินไปจำนำ จำนองไว้ ก็เกิดสภาพคล่องและได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่ น.ส.บุษยา (สงวนนามสกุล) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริษัทคู่สัญญาที่ได้รับโครงการ ได้ว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อยหลายสิบราย เข้ารับช่วงดำเนินการทั้งในงานโครงสร้างและงานปลีกย่อยต่างๆ ทั้ง ฝ้า เพดาน ไฟฟ้า รั้ว ประตู หน้าต่าง ในระหว่างการก่อสร้าง มีการจ่ายเงินงวดเป็นระยะ แต่ภายหลังกลับพบว่าไม่มีการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาบางราย ทั้งที่มีการส่งมอบงานให้กับสำนักงานศาลฯ ไปแล้ว เมื่อทวงถามทางบริษัทก็ขอต่อรองลดราคา โดยอ้างราคากลางที่เปลี่ยนแปลง ผู้รับเหมาหลายรายก็ยอมเพราะกลัวไม่ได้เงิน แต่สุดท้ายก็ถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินโดยที่ไม่ให้เหตุผล ก่อนหน้านี้เคยมาร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ และผ่านมากว่า 6 เดือนยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงมาทวงถามในครั้งนี้
โดยนายเอกรินทร์ (สงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้รับเหมา กล่าวว่า ตนพร้อมกับเพื่อนผู้รับเหมาที่เดินทางมาวันนี้ก็มีจำนวนประมาณ 20 ราย เป็นผู้รับเหมาช่วงจากผู้รับเหมารายใหญ่รายหนึ่ง โดยผู้รับเหมาทั้งหมดเป็นกลุ่มที่ทำทั้งเรื่องทาสี ทำหลังคา และปูพื้น ซึ่งจำนวนเงินก็น่าจะกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ส่งมอบเงินให้กับผู้รับเหมาดังกล่าวไปแล้ว เพราะส่งมอบงานครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นเดือน ธ.ค. 61 แต่ผู้รับเหมาก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาช่วง จึงได้มาร้องศูนย์ดำรงธรรม แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานหลายเดือน ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงได้เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงธรรมอีกครั้ง เพื่อติดตามทวงถามดังกล่าว เพราะผู้รับเหมาหลายราย ก็นำทรัพย์สินส่วนตัวไปจำนำ จำนองไว้ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจ และคิดว่าเมื่อส่งมอบงานเสร็จแล้ว ก็จะได้รับเงินมาดำเนินธุรกิจต่อ แต่ขณะนี้กลับไม่ได้เงิน ทำให้หลายคนที่นำทรัพย์สินไปจำนำ จำนองไว้ ก็เกิดสภาพคล่องและได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่ น.ส.บุษยา (สงวนนามสกุล) กล่าวว่า โครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริษัทคู่สัญญาที่ได้รับโครงการ ได้ว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อยหลายสิบราย เข้ารับช่วงดำเนินการทั้งในงานโครงสร้างและงานปลีกย่อยต่างๆ ทั้ง ฝ้า เพดาน ไฟฟ้า รั้ว ประตู หน้าต่าง ในระหว่างการก่อสร้าง มีการจ่ายเงินงวดเป็นระยะ แต่ภายหลังกลับพบว่าไม่มีการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาบางราย ทั้งที่มีการส่งมอบงานให้กับสำนักงานศาลฯ ไปแล้ว เมื่อทวงถามทางบริษัทก็ขอต่อรองลดราคา โดยอ้างราคากลางที่เปลี่ยนแปลง ผู้รับเหมาหลายรายก็ยอมเพราะกลัวไม่ได้เงิน แต่สุดท้ายก็ถูกบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินโดยที่ไม่ให้เหตุผล ก่อนหน้านี้เคยมาร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ และผ่านมากว่า 6 เดือนยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงมาทวงถามในครั้งนี้
