ข่าวผู้ต้องราชทัณฑ์เรือนจำ'ระนอง-สตูล' ขอกลับตัวเป็นคนดี - kachon.com

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่เรือนจำจังหวัดระนอง อ.เมือง จ.ระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยมี นางสุวิมล ไกรสูงเนิน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดระนอง นายชาตรี จันทร์วีระชัย ปลัดจังหวัดระนอง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดระนอง อัยการจังหวัดระนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยานอย่างพร้อมเพรียง
 

สำหรับการปล่อยตัวนักโทษของเรือนจำจังหวัดระนอง มีผู้ต้องขังราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวตามที่คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดระนอง อัยการจังหวัดระนอง และผู้บัญชาการเรือนจำระนอง ร่วมกันตรวจสอบ ทั้งหมด78 คน แยกเป็นผู้ต้องกักขัง ชาย 24คน ผู้ต้องกักขัง หญิง 7 คน นักโทษเด็ดขาด ชาย 184 คน และนักโทษเด็ดขาด หญิง 24 คน รวมทั้งสิ้น 239 คน นักโทษทั้งหมด ได้กล่าวคำปฏิณาญตนเป็นพลเมืองดีพร้อมกันและร่วมกราบถวายบังคมต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ก่อนที่จะเดินออกจากประตูเรือนจำ เข้าสู่อ้อมกอดของญาติพี่น้องที่มารอรับด้วยความดีใจ โดยนักโทษเหล่านี้จะได้รับค่าเดินทางรวมถึงเสื้อผ้ารองเท้าเพื่อสวมใส่กลับบ้านกันทุกคน
 
 
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ที่มีความประพฤติดี ได้รับการลดหย่อนโทษและปล่อยตัว ซึ่งหลังจากนี้ทุกท่านได้กลับออกไปใช้ชีวิตตามปกติ ขอให้มีสติในการใช้ชีวิต ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี และสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศต่อไป”


ขณะที่เรือนจำจังหวัดสตูล  นายกาจก้อง รัตนะ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสตูล ได้จัดพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมี นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการฯสตูล เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวให้โอวาทแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เรือนจำจังหวัดสตูล จำนวน 87 คน ที่ขอให้ทุกคนเพิ่งรำลึกไว้ว่า พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ เสมือนการให้โอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจ และประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความดีงามมีความจงรักภักดีในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นคนดีของสังคมประเทศชาตินำวิชาความรู้ในด้านต่างๆที่ได้รับการฝึกฝนและอบรมศึกษาเรียนรู้ระหว่างต้องโทษไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต และประกอบอาชีพการงานที่สุจริตเลี้ยงตนเอง และครอบครัว

หากทำได้เช่นนี้จะชื่อว่าได้สนองพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐหาที่สุดมิได้ให้เป็นที่ประจักษ์ ประการสำคัญเหนือสิ่งใดขอให้ทุกท่านน้อมรำลึกในพระเมตตาพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถพร้อมนำแนวพระราชดำริไปปรับใช้ ในการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หรือการรู้จักพอประมาณมีเหตุผลหมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมรู้รักสามัคคีซื่อสัตย์สุจริตขยันอดทนก็ส่งผลให้ท่านมีชีวิตส่วนตน และครอบครัวที่มีความสุขในชีวิต.