'คสช.'ฮึ่มสั่งสอบพิรุธ30วัน งบปลูกป่าแก่งกระจาน18ล้าน
ข่าวประจำวัน

จากกรณี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มอบหมายให้ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 7 จ.นครปฐม ตรวจสอบข้อเท็จจริง "โครงการปลูกป่าเพื่อลดปัญหาอุทกภัย และภาวะโลกร้อนในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา" เนื้อที่ 4,200 ไร่ ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยใช้งบประมาณจากเงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ 15,960,000 บาท ช่วงระหว่างปี 2555-2556 ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบปลูกป่าจริง แต่ปลูกไม่ตรงตามแปลงที่ได้ขออนุมัติ อีกทั้งปลูกไม่ครอบคลุมพื้นที่ รวมทั้งมีข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จึงสรุปสำนวนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดำเนินการ ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เกาะติดรายงานสถานการณ์ เพื่อร่วมไขความจริง นำเสนอสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ทีมข่าวเฉพาะกิจส่วนกลางหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ รายงานความคืบหน้าว่า จากการตรวจสอบเอกสาร ปรากฏหลักฐานอีกว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.54 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช (ในสมัยนั้น) ได้อนุมัติโครงการฯ และพิจารณาการจ่ายเงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือที่ ทส.0910.604/4642 เรื่อง ขออนุมัติใช้เงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติเพื่อดำเนินการตามแผน/โครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินรายได้ฯครั้งที่ 2/2555 วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.54 (เพิ่มเติม) โดยที่สำนักอุทยานแห่งชาติได้ตรวจสอบแผน/โครงการซึ่งคณะกรรมการมีมติเห็นชอบและมีรายละเอียดครบถ้วน สามารถแจ้งแผนการดำเนินการเพิ่มเติมเงินทั้งสิ้น 178,273.424 บาท ตามระเบียบ กรมอุทยานฯ ว่าด้วยการเก็บ การรักษา การใช้จ่ายเงินรายได้เพื่อบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2546

นอกจากนี้มีข้อชวนสังเกตว่า การยื่นขออนุมัติงบ มีอุทยานฯต่างๆ ยื่นโครงการเข้ามารวมทั้งหมด 123 โครงการ ซึ่งพบว่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ขอโครงการและได้รับการอนุมัติโครงการในครั้งนี้ 2 โครงการ คือ ในลำดับที่ 105 โครงการจัดทำฝายต้นน้ำแบบผสมผสาน ในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน เงิน 2,500,000 บาท และ ลำดับที่ 106 โครงการปลูกป่าเพื่อลดปัญหาอุทกภัยและภาวะโลกร้อนฯ จำนวนเงิน 15,960,000 บาท ซึ่งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้งบในครั้งนี้มากที่สุด โดยอุทยานฯ อื่นๆ ได้งบตามโครงการที่ขอไว้เป็นเงินหลักแสนบาทถึงหลักล้านบาทเพียงเท่านั้น จึงเป็นข้อสังเกตว่า เหตุใดอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จึงได้งบการใช้จ่ายเงินรายได้ฯ เป็นจำนวนสูงกว่าอุทยานฯในที่อื่นๆ
ส่วนขั้นตอนการพิสูจน์ข้อทุจริตที่ถูกร้องเรียนนั้น ที่ผ่านมา คสช. ได้เสนอแนวทางต่อรัฐบาล ในมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระบบราชการ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบตามแนวทางดังกล่าว และขอให้แต่ละหน่วยราชการยึดเป็นแนวทางในการปฏิบัติเป็นมติ ครม. เมื่อวันที่ 27 มี.ค.61 เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ ตามแนวทางที่ คสช. เสนอไว้ชัดเจนว่า เมื่อมีข่าวว่าเกิดการทุจริตประพฤติมิชอบ ขอให้หัวหน้าส่วนราชการเริ่มต้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันทีภายใน 7 วัน ที่ได้รับทราบข้อมูลการทุจริต และให้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายในเวลา 30 วัน

หากตรวจสอบแล้วมีข้อมูลเบื้องต้นพอเชื่อได้ว่าจะเป็นไปตามข้อมูลที่ได้รับ ให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาตามขั้นตอนของ คสช. อย่างเคร่งครัด โดยกรณีมีความผิดทางวินัยร้ายแรงหรือมีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ แต่ไม่ถึงขั้นปลดออกหรือไล่ออกให้หน่วยงานต้นสังกัดปรับย้ายไปอยู่ตำแหน่งอื่น แต่ห้ามย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมภายในเวลา3 ปี รวมถึงห้ามย้ายไปในตำแหน่งที่สูงกว่าเดิมภายในเวลา3 ปีขณะเดียวกันให้หัวหน้าส่วนราชการวางแนวทางในการคุ้มครองพยานอย่างเหมาะสมด้วย.