ข่าวสลดสาว16มดลูกบวมเป่ง พบผ้าก๊อซถูกลืมในช่องคลอด - kachon.com

สลดสาว16มดลูกบวมเป่ง พบผ้าก๊อซถูกลืมในช่องคลอด
ข่าวประจำวัน

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก "ห้องสืบสวยสยอง" โพสต์เรื่องราวขอความเป็นธรรมให้สาววัย 16 ปี ที่ไปทำคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยหลังคลอด 7 วัน ทำการตรวจร่างกายแล้วไม่เจออะไร แต่ภายหลังเกิดอาการผิดปกติหลังคลอดบุตรได้ 45 วัน จึงไปตรวจรพ.อื่นทำให้พบว่า มีการลืมผ้าก๊อซไว้ในช่องคลอด 2 ชิ้น และยังพบว่ามีบาดแผลในมดลูกจำนวนมาก เหตุการณ์ผ่านมาเป็นเดือนเเล้วรพ.ต้นเรื่องยังไม่เยียวยาผู้เสีย และไม่มีการติดต่อแต่อย่างใด ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นพ.ภูวเดช สุระโคตร สาธารณสุข จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า มีเรื่องเกิดขึ้นจริงโดยผู้ป่วยอายุเพียง 16 ปี ทำงานอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ และมาทำคลอดยัง รพ.ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ภายหลังเกิดปัญหาขึ้น ทางโรงพยาบาลได้ออกมาขอโทษถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้ว รวมทั้งทบทวนและมีมาตราการเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด รวมทั้งหาทางชดใช้เยียวยาค่ารักษาพยาบาลด้วย

"...ปกติเรื่องของการคลอดนั้น หลังจากทำคลอดเสร็จจะต้องมีการเย็บ  ถ้าเลือดไม่หยุดก็จะเอาผ้าก๊อซไปอุดเพื่อไม่ให้เลือดไหลเยอะ และจะต้องเอาออก แต่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีการเปลี่ยนเวร ตรงนี้จึงทำให้เกิดข้อผิดพลาด ทางเราก็ต้องขออภัยที่เกิดข้อผิดพลาดตรงนี้ขึ้นมา เราจะทบทวนและเน้นย้ำ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์แบบนี้อีก นอกจากนี้ในเรื่องของการให้บริการ เราจะมีการสอบสวนอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องข้อผิดพลาดทางการให้บริการ..." นายแพทย์สาธารณสุข จ.สุรินทร์ กล่าว

ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผอ.รพ.ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยมีอาการมดลูกบวม และปวดที่ช่องคลอด จึงไปพบแพทย์รพ.สมุทรปราการ ทำให้ทราบว่ามีผ้าก๊อซติดอยู่ในช่องคลอด พอเอาออกได้แล้วจึงแจ้งมายังรพ.ต้นเรื่อง ปรากฏว่ามีการสอบสวนและยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมกับขอโทษคนไข้แล้ว นอกจากนี้ยังติดต่อไปยังรพ.สมุทรปราการเพื่อดำเนินการเยียวยาค่ารักษาจากความเสียหายทันที อย่างไรก็ตามผู้ป่วยไม่สะดวกที่จะนำเอกสารมายื่นให้รพ. จึงขอแนะนำให้ญาติมายื่นแทนได้ แต่ต้องส่งเอกสารไปให้เซ็นรับรองก่อนแล้วส่งกลับมา ส่วนการเยี่ยวยาต้องดูถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นว่ามากน้อยขนาดไหน ตามความหนักเบา มีคณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาอยู่ให้เป็นไปตามระเบียบ ทางโรงพยาบาลเองก็พร้อมที่เยียวยาและไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ก็ได้มีการเรียกประชุมและกำชับให้มีรอบคอบความระมัดระวังให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก ทางเราก็มีมาตรการป้องกันความเสี่ยงในทุก ๆ ด้านอยู่แล้ว.