'หมอแล็บ'เผยช่องโหว่คนตีเนียน ทำผู้ป่วยซวยติดHIV
ข่าวประจำวัน
จากกรณีหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นวัย 24 ปี ได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการทีวี โดยระบุว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี โดยไม่รู้ตัวจากการรักษาโรคด้วยการให้เลือดจากโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยภายหลัง ทาง รพ.บำรุงราษฎร์ ได้ออกมายอมรับมีผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์จากให้เลือดรักษาโรคจริง แต่ได้ดูแลตามหลักมนุษยธรรมมาตลอด โดยภายหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างเกิดกระแสข้องใจถึงการติดเชื้อเอชไอวี จากการรับเลือดดังกล่าวไปทั่วสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน เจ้าของเพจ "หมอแล็บแพนด้า" ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.8 ล้านคน ได้โพสต์ข้อความระบุ "หลายคนคงจะมีข้อสงสัยกันใช่มั้ยครับว่าเลือดที่นำไปให้ผู้ป่วยไม่มีการตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อนหรือ??? ทำไมผู้ป่วยที่รับเลือดจึงติดเอดส์ได้ เดี๋ยวผมจะบอกให้ อ่านตามช้าๆนะครับ" โดยก่อนที่จะให้เลือดแก่ผู้ป่วย ทางห้องแล็บจะมีการตรวจหาเชื้อเอชไอวีทุกถุง(ไม่เว้นแม้แต่ถุงเดียว) ด้วยหลักการตรวจ 2 หลักการ โดยวิธีที่ 1 เป็นวิธีที่ตรวจหาเชื้อเอดส์โดยการตรวจหาโปรตีนของมันและตรวจหาภูมิคุ้มกันที่ร่างกายคนสร้างขึ้น ไม่ต้องงงครับ ให้รู้แค่ว่าวิธีนี้ตรวจหาโปรตีนของเชื้อและตรวจหาภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้น
วิธีที่ 2 เป็นวิธีที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน ก็คือการตรวจหา DNA ของเชื้อเอชไอวีเลย (อันที่จริงมันเป็น RNA แหละ) ถามว่าในประเทศไทยตรวจวิธีนี้มั้ย ตอบว่ามีครับ เวลาผมโพสต์ภาพในเพจถ้าใครสังเกตมันจะมีเครื่องตรวจอยู่ข้างหลังผม เครื่องนั้นแหละ "อ้าว! แล้วทำไมผู้ป่วยถึงติดเอดส์ล่ะครับ ขอตอบว่า ถึงเราจะมีเครื่องที่ดีที่สุดในโลก แต่มันมีข้อจำกัดอยู่ว่า มันจะตรวจเจอเชื้อได้เร็วที่สุดประมาณ 11 วัน โดยเฉลี่ย (บางคนรู้เยอะ ไปค้นอ่านตามเว็บ แล้วเถียงว่า 5 วัน 7 วัน นั่นมันไม่ใช่ค่าเฉลี่ยค้าบ และเปอร์เซ็นต์ความเชื่อมั่น ไม่ถึง 95 เข้าใจบ่? เอาเป็นว่าจำตัวเลข 11 เอาไว้ละกัน อย่าพยายามเถียงผู้เสียวซ่าน เอ้ย! ผู้เชี่ยวชาญสิครับ 555555"
"ผมกำลังจะบอกว่า ถ้าวันนึง ผมไปได้เสียกับคนที่มีเชื้อเอชไอวีแบบสดๆไม่ใส่ถุง จะได้กันทางรูไหนก็แล้วแต่ แล้วเกิดได้รับเชื้อเอชไอวีมาหมาดๆ เครื่องที่ดีที่สุดในโลกก็ตรวจไม่เจอครับ เพราะเชื้อที่เราเพิ่งได้รับเข้าไปมันมีแค่นิสสสสสสเดียวจริงๆ (ทางการแพทย์เรียกว่าช่วง วินโด้วพีเรียด) ต้องรอให้มันขยายพันธุ์ หรือเพิ่มปริมาณในร่างกายเราก่อน ประมาณวันที่ 11 หลังจากรับเชื้อจึงจะตรวจเจอ"
บางคนสงสัยต่อว่า วันที่จะตรวจพบคือประมาณวันที่ 11 วัน ทำไมไม่รอก่อน รอสักเดือนนึงก็ได้ ค่อยนำเลือดนั้นไปตรวจเชื้อ ตอบว่าไม่ได้! เพราะว่าเชื้อที่อยู่ในถุงไม่ใช่ทิ้งไว้นานๆ แล้วมันจะเพิ่มจำนวนจนตรวจเจอ ส่วนใหญ่ DNA มันมักจะค่อยๆเสื่อมสภาพด้วยซ้ำเขาเรียกว่ามัน degrade และอีกอย่างถ้าเรายิ่งปล่อยเลือดไว้นานวัน เลือดจะไม่มีคุณภาพเลย โดยเฉพาะเกล็ดเลือดที่มีอายุสั้นมากเพียงแค่ 3-5 วันเท่านั้น และมันมีคนบางจำพวกที่อยากตรวจเอชไอวีฟรีๆ จะไปโรงบาลไปขอตรวจเอชไอวีก็อายเขา ก็เลยทำเนียนไปบริจาคโลหิต (สมมติว่าผ่านไปแค่ 2-3 วัน) แบบสอบถามก่อนบริจาคโลหิตเขาถามว่า คุณไปเสี่ยงมาหรือไม่ ก็เลือกที่จะตอบว่าไม่เสี่ยง "พฤติกรรมแบบนี้อย่าไปทำนะครับ!!! เครื่องไหนก็ตรวจหาเชื้อไม่เจอ มันจะเจอประมาณวันที่ 11 ไง แล้วเลือดคุณก็จะถูกนำไปให้เด็ก ให้ผู้ป่วยตาดำๆ สุดท้ายพวกเขาก็กลายเป็นเอดส์"
และถ้าสงสัยว่าตัวเองจะได้รับเชื้อ ขอแนะนำว่าให้ไปคลินิกนิรนาม เพราะไปที่เดียวจบครบวงจร มีเครื่องที่ดีที่สุดอยู่ที่นั่น มียาฟรี มียาจำหน่ายในราคาที่ถูกที่สุด และอีกกลุ่มหนึ่งก็คือผู้ที่กำลังรับยาต้านเอชไอวีอยู่ คุณอย่าไปบริจาคโลหิต คุณมีเชื้ออยู่ในร่างกาย "พอเข้าใจยังครับว่า ความซื่อสัตย์ของผู้บริจาคเลือดมีความสำคัญยังไง ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น โปรดช่วยกันแชร์ไปครับ"...
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @หมอแล็บแพนด้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง..
-รพ.บำรุงราษฎร์แสดงความเสียใจ ทำคนไข้ติดเชื้อเอชไอวี