"หมอ"แจงรับเลือดติดเชื้อHIV เกิดขึ้นได้แต่น้อยมาก
ข่าวประจำวัน
Webmaster
2019-05-10 11:54:00
48
Webmaster
2019-05-10 11:54:00
48
-
สนับสนุนเนื่อหา
สืบเนื่องจากผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชื่อดัง จนกระทั่งผ่านไป 15 ปีปรากฏว่าติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งทางรพ.บำรุงราษฎร์ ออกเอกสารแสดงความเสียใจ ระบุว่า ได้รับเลือดจากสภากาชาดไทย ซึ่งที่ผ่านมาดูแลเต็มที่และจะดูแลต่อเนื่อง พร้อมให้การช่วยเหลือด้านอื่นเพิ่มเติม
ล่าสุดวันที่ 10 พ.ค. นาวาโทหญิงแพทย์หญิงอุบลวัณณ์ จรูญเรืองฤทธิ์ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ให้สัมภาษณ์สดผ่าน @Dailynews Live-TH กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้เกิดขึ้นในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งโอกาสที่อาจจะติดเชื้อภายหลังจากรับเลือดจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เกิดขึ้นได้แต่น้อยมาก ๆ เพราะวิทยาศาสตร์ในทางการแพทย์ไม่มีอะไรครบ 100% แต่ก็จะต้องคัดกรองสิ่งที่ดีที่สุดในสมัยนั้น เพื่อไม่หยุดพัฒนากระบวนการตวจสอบ ทั้งนี้การที่จะบริจาคเลือดได้จะเริ่มต้นตั้งแต่คัดกรองผู้บริจาค สร้างความเข้าใจ เพราะจู่ ๆ จะเดินเข้ามาบริจาคไม่ได้ เนื่องด้วยมีปัจจัยเสี่ยงโดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยสภากาชาดไทยจะมีแบบสอบถามที่ใช้คัดกรองตัวเอง หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์อีกครั้ง และตรวจสอบประวัติเดิมว่าเคยหรือไม่เคยบริจาคเลือด เมื่อผ่านทุกขั้นตอนก็จะเอาตัวอย่างเลือดไปตรวจว่าผ่านหรือควรตกไป
"ที่บอกว่า ไม่มีอะไร 100% หมายความว่า การคัดกรองก็ต้องได้รับความยินยอมจากผู้บริจาค เราไม่มีนโยบายสนับสนุนบังคับใครให้มาบริจาคเลือด อีกอย่างตัวผู้บริจาคเอง ถ้าไปมีเพศสัมพันธ์วานนี้และมาบริจาควันนี้ เชื้อโรคที่หาได้ในร่างกายมีไม่มากพอที่การตวรจหาค้นเจอ ฉะนั้นผู้บริจาคควรกรอกแบบสอบถาม และให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อข้อเท็จจริงอย่าบ่ายเบี่ยง" ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ระบุเตือน
แพทย์หญิงอุบลวัณณ์ กล่าวอีกว่า ขอยืนยันประชาชนมั่นใจได้ด้วยกระบวนการที่สภากาชาดไทยเช็ตไว้ ทั้งการประชาสัมพันธ์ การคัดกรอง และการตอบแบบสอบถามที่ครบถ้วน แต่ผู้บริจาคต้องตอบด้วยความเป็นจริง รวมถึงการตรวจที่มีน้ำยาที่มีความไวต่อการตรวจจับเชื้อและทันสมัยสูงสุด และส่งผลการตรวจผ่านระบบคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดก็สามรถตรวจสอบที่มาที่ไปได้ แต่อย่างไรก็ตามการตรวจคัดกรองการติดเชื้อในเลือดยังมีข้อจำกัดกรณีที่ผู้บริจาคเพิ่งได้รับเชื้อเข้ามาใหม่ ซึ่งในเลือดจะมีปริมาณเชื้อไม่มากพอที่จะตรวจพบได้ด้วยวิธีใด ๆ จึงอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับเชื้อเหล่านี้ แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นมีน้อยมาก.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...
